อาฟเตอร์สกูล ( เกาหลี : 애프터스쿨 ; อังกฤษ : After School ) เป็นกลุ่มนักร้องหญิงของ ประเทศเกาหลีใต้ สังกัดค่าย เพลดิสเอนเตอร์เทนเมนต์ ในปี ค.ศ. 2009 ที่มีระบบการรับสมาชิกเข้าและสำเร็จการศึกษา [ 1 ] [ 2 ] อาฟเตอร์สกูลเปิดตัวอย่างเป็นทางการด้วยซิงเกิล “ อา ! ” ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2009 จากนั้นพวกเธอได้ปล่อยซิงเกิล “ ดีวา ” และ “ บีคอสออฟยู “ ในช่วงปลายปี ซึ่งกลายเป็นซิงเกิลยอดฮิตและประสบความสำเร็จเชิงพาณิชย์มากที่สุดของกลุ่ม [ 3 ] [ 4 ] ซิงเกิลถัดมา “ แบง ! “, “ แชมพู “ และ “ แฟลชแบ็ก “ ประสบความสำเร็จบนชาร์ต รวมถึงได้รับความนิยมทั้งในและต่างประเทศ [ 5 ] [ 6 ] ซิงเกิลที่หก “ เฟิสต์เลิฟ “ ได้รับคำยกย่องในการเต้นแบบโพลแดนซ์จากนิตยสาร บิลบอร์ด [ 7 ] ในปี ค.ศ. 2017 อาฟเตอร์สกูลอยู่อันดับที่ 5 จาก 10 ในรายชื่อ “ เกิร์ลกรุ๊ปเคป็อปที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งทศวรรษ ” [ 8 ] ปัจจุบันกลุ่มมีสมาชิกเหลือเพียงคนเดียวคือ นานา ปัจจุปันสมาชิกอาฟเตอร์สกูลโฟกัสกับงานกิจกรรมเดี่ยว

ก่อนจะมาเป็นอาฟเตอร์สกูลนั้น กาฮี เคยเป็นแดนเซอร์ให้กับศิลปินชื่อดังหลายคน เช่น โบอา DJ DOC Jinusean Lexy เซเว่น ฮวีซอง ฯลฯ ประมาณปี 2547 – 2548 ช่วงที่ยังเป็นแดนเซอร์อยู่กาฮีเคยคบกับ ปาร์ค ยูชอน นักร้องวง ทงบังชินกี ปัจจุบันนี้ทั้งคู่ได้เลิกรากันไปนานหลายปีแล้ว ในช่วงปี 2548 กาฮีเคยเป็นสมาชิกเกิร์ลกรุปวง S.Blush ออกดิจิตอลซิงเกิลในอเมริกาชื่อ It ‘s My Life ซึ่งติดอันดับ 2 ใน Billboard Hot Dance Chart ปี 2551 กาฮี ได้มาร้องแร๊พให้กับ ซนดัมบิ ศิลปินในสังกัดเดียวกันในเพลง “ Bad Boy ” ขณะนั้นกาฮียังเป็นศิลปินฝึดหัดอยู่ ในขณะที่จองอาก็เคยเป็นแดนเซอร์ให้กับซนดัมบิในเพลง “ Bad Boy ” ส่วนจูยอนก็เคยแสดงมิวสิกวีดีโอให้กับ โทนี่ อัน ในเพลง “ Yutzpracachia ” ในปี 2549 และในปี 2550 จูยอนก็เคยร่วมแสดงภาพยนตร์เรื่อง My Tutor Friend 2 และเคยออกรายการ MBC “ Introduce Stars ’ Friends ” Show ในฐานะเพื่อนสนิทของ ซนดัมบิ เมื่อปี 2551 ด้วย หลังจากที่กาฮีออกจากวง S.Blush แล้ว เธอได้ติดต่อกับเพื่อนที่ เพลดิสเอนเตอร์เทนเมนท์ และได้วางโครงการร่วมกันที่จะก่อตั้งเกิร์ลกรุปวงใหม่ขึ้นมา โดยสมาชิกคนแรก ( นอกเหนือจากกาฮี ) คือเบคก้า ซึ่งเป็นเด็กฝึกหัดในตอนที่กาฮียังเป็นสมาชิกวง S.Blush อยู่ ตามด้วยจองอา จูยอน และโซยองเป็นคนสุดท้าย เพี่อที่จะเดบิวต์เป็นเกิร์ลกรุปที่มีสมาชิก 5 คน อาฟเตอร์สกูลได้ปรากฏตัวอย่างไม่เป็นทางการครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2008 ในงาน SBS Song Festival โดยกาฮีและจองอานั้นได้ร่วมแสดงในเพลง “ Play Girlz ” ร่วมกับ ซนดัมบิ ส่วนโซยอง จูยอน และเบคก้า ก็ได้เป็นแดนเซอร์แบ็คอัพให้กับการแสดงซนดัมบิในงานนี้เช่นกัน
ในวันที่ 15 มกราคม 2009 เพลดิสเอนเตอร์เทนเมนท์ ต้นสังกัดได้ปล่อยตัวอย่างความยาว 30 วินาทีของซิงเกิลเดบิวต์ “ AH ! ” ผ่านทาง Gom TV ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากและมีผู้เข้าชมในวันแรกมากกว่าหนึ่งแสนครั้ง [ 9 ] ทำให้ค่ายตัดสินใจปล่อยซิงเกิลแรกคือ “ AH ! ” พร้อมกับซิงเกิลอัลบั้มชุดแรก New Schoolgirl ออกมาในวันนั้นทันที อาฟเตอร์สกูลขึ้นแสดงสดครั้งแรกในวันที่ 17 มกราคม 2009 ในรายการ มิวสิคคอร์ ( Show ! Music Core ) ของสถานีโทรทัศน์ เอ็มบีซี ซึ่งขณะนั้นมีสมาชิก 5 คนคือ กาฮี จองอา จูยอน โซยอง และเบคก้า
After School in July 2009 ในช่วงเดือนเมษายน ยูอี ได้เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของวง ทำให้อาฟเตอร์สกูลมีสมาชิกทั้งหมด 6 คน พร้อมกับได้ปล่อยดิจิตอลซิงเกิลใหม่ “ Diva ” ในวันที่ 9 เมษายน 2009 และขึ้นแสดงครั้งแรกในรายการ เอ็ม ! เคาต์ดาวน์ ( M ! Countdown ) ของช่องเอ็มเน็ตในวันเดียวกัน ซิงเกิลใหม่ “ Diva ” นี้ทำให้อาฟเตอร์สกูลได้รับรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมประจำเดือนเมษายน 2009 ของ Cyworld Digital Music Awards อีกด้วย ในวันที่ 21 พฤษภาคม 2009 อาฟเตอร์สกูลได้ปล่อยดิจิตอลซิงเกิลใหม่ “ Dream Girl ” ซึ่งเป็นการนำเพลง “ เลิฟแมชีน “ ( Love Machine ) ของวง มอร์นิงมุซุเมะ เกิร์ลกรุปชื่อดังของญี่ปุ่นมาเรียบเรียงใหม่ ในเดือนมิถุนายน 2009 อาฟเตอร์สกูลและซนดัมบิ ได้รับเลือกให้แสดงเปิดคอนเสิร์ตของวง พุสซีแคตดอลส์ เกิร์ลกรุปชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ในการมาทัวร์เอเชีย ( Doll Domination Tour ) ของพวกเธอ [ 10 ] ในวันที่ 16 กรกฎาคม 2009 อาฟเตอร์สกูลได้ปล่อยดิจิตอลซิงเกิลร่วมกับ ซนดัมบิ ในเพลง “ Amoled ” ซึ่งเป็นเพลงโปรโมทโทรศัพท์มือถือของซัมซุง ในวันที่ 29 ตุลาคม 2009 ยูโซยอง ได้ลาออกจากวงไป โดยให้เหตุผลว่าเพื่อไปทำงานทางด้านการแสดง ภายหลังได้มีการเพิ่มสมาชิกใหม่อีก 2 คน คือ เรนะ และ นานะ ทำให้อาฟเตอร์สกูลมีสมาชิกทั้งหมด 7 คน ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2009 อาฟเตอร์สกูลกลับมาอีกครั้งกับซิงเกิลอัลบั้มชุดที่สอง “ Because Of You ” ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยชนะรางวัลจากรายการเพลงเป็นครั้งแรก จากรายการ อินกิกาโย ของสถานีเอสบีเอส ได้รับรางวัล Mutizen awards จากการที่สามารถชนะรางวัลในรายการเพลงได้ถึง 3 ครั้ง และสามารถขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ตเพลงได้ทุกชาร์ต ( all-kill ) ทั้งรายวันและรายสัปดาห์ รวมถึงยังได้อันดับ 1 จากการจัดอันดับเพลงประจำเดือนธันวาคม 2009 ด้วย ( Gaon Monthly Singles Chart for December 2009 ) ส่งผลให้อาฟเตอร์สกูลเป็นที่รู้จักและได้รับความรักจากแฟนๆมากยิ่งขึ้น

2010 : “ Bang ! “, ออเรนจ์ คาราเมล และ “ happy Pledis 1st Album ” [แก้ ]

อาฟเตอร์สกูลเริ่มต้นปี 2010 ด้วยการคว้ารางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากการมอบรางวัลของ Billboard Japan Music Awards และ Seoul Music Awards นอกจากนี้ อาฟเตอร์สกูลยังได้จัดงานแฟนมีทติ้งกับแฟนๆเป็นครั้งแรกในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2010 ในวันที่ 15 มีนาคม 2010 เว็บไซต์หลักของอาฟเตอร์สกูลได้มีการเปิดเผยภาพโปรโมทซิงเกิลอัลบั้มชุดที่สามเป็นครั้งแรก โดยในภาพนี้สิ่งที่ทุกฝ่ายให้การจับตามองคือ อาฟเตอร์สกูลไม่ได้ปรากฏตัวแค่ 7 คน แต่กลับมีสมาชิกเพิ่มเข้ามารวมเป็น 8 คนด้วยกัน สำหรับภาพแจ็คเก็ตของ 8 สาวอาฟเตอร์สกูล หนึ่งในสมาชิกใหม่ที่กำลังก้มหน้าก็ได้รับความสนใจจากแฟนๆเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับภาพลักษณ์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งความสง่างามก็ทำให้ทุกฝ่ายต่างจับตามองถึงการแปลงโฉมในครั้งนี้กับเวทีคัมแบ็คของพวกเธออย่างถ้วนหน้า จนในวันที่ 17 มีนาคม เพลดิสเอนเตอร์เทนเมนท์จึงได้เปิดเผยว่าสมาชิกใหม่ของอาฟเตอร์สกูลนั่นก็คือ ลิซซี่ และอาฟเตอร์สกูลก็จะคัมแบ็คด้วยซิงเกิลอัลบั้มชุดที่สาม Bang! ในวันที่ 25 มีนาคมนี้ โดยซิงเกิล Bang! นั้นสามารถทำยอดขายได้ 2,374,731 แผ่น และอยู่ในอันดับที่ 29 ของการจัดอันดับชาร์ตเพลงประจำปี 2010 ในวันที่ 7 มิถุนายน 2010 เพลดิสเอนเตอร์เทนเมนท์ ต้นสังกัดได้เปิดตัวยูนิตย่อยกลุ่มแรกของวงอาฟเตอร์สกูลที่มีชื่อว่า ออเรนจ์ คาราเมล ซึ่งมีสมาชิก 3 คน คือ เรนะ นานะ และลิซซี่ โดยออเรนจ์ คาราเมล นั้นเป็นวงที่มีคอนเซปต์น่ารัก ร่าเริง สดใส ซึ่งแตกต่างจากวงอาฟเตอร์สกูลที่มีคอนเซปต์แข็งแรง เซ็กซี่ และดุดันอย่างสิ้นเชิง ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2010 เพลดิสเอนเตอร์เทนเมนท์ ต้นสังกัดได้เตรียมออดิชั่นเพื่อค้นหาสมาชิกคนที่ 9 เข้ามาร่วมวงอาฟเตอร์สกูล ซึ่งการออดิชั่นจะเริ่มขึ้นในเดือนสิงหาคม ในวันที่ 6 ธันวาคม 2010 อาฟเตอร์สกูล ได้ปล่อยซิงเกิลใหม่ Happy Pledis 1st Album ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ “ glad Pledis ” ที่ศิลปินของเพลดิสทุกคนจะมอบความสุขให้กับแฟนเพลงเป็นของขวัญส่งท้ายปี โดยรายได้บางส่วนจากการจำหน่ายซิงเกิลนี้ จะถูกนำไปบริจาคให้กับองค์กร “ Save The Children ” ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่ช่วยเหลือเด็กๆด้วย อย่างไรก็ตาม เบคก้า ไม่ได้เข้าร่วมโปรโมทซิงเกิลนี้กลับสมาชิกคนอื่นๆ โดยต้นสังกัดเปิดเผยว่า “ ตอนนี้เบคก้ากำลังอยู่ในระหว่างการพักผ่อนครับ ” เขากล่าว “ ตั้งแต่เธอเป็นเด็กฝึกหัด เบคก้า ยังไม่เคยเดินทางกลับบ้านไปที่ฮาวายเป็นเวลากว่า 3-4 ปีแล้วครับ ตอนนี้เธอเลยใช้เวลากลับไปผักผ่อน ” เสริม “ เนื่องจากเธอไปพักผ่อนอยู่ก่อนแล้ว การที่จะให้เธอเดินทางกลับมาแป๊ปนึงเพื่อถ่ายภาพนั้นก็ใช่เรื่อง ทำให้เราตัดสินใจไม่ได้รวมเธอเข้าไปในอัลบั้มนี้ครับ ” กล่าวต่อ “ อัลบั้มนี้เป็นผลงานอัลบั้มซีซั่นพิเศษ ที่อาฟเตอร์สกูลได้เตรียมเอาไว้เพื่อใช้เป็นเพลงในเทศกาลคริสต์มาสในฤดูหนาวนี้ครับ ” เสริม “ ส่วนด้านเบคก้าจะกลับมาร่วมกับเพื่อนๆของเธอในอัลบั้มเต็มของอาฟเตอร์สกูลที่จะวางจำหน่ายต้นปีหน้าครับ ” ในวันที่ 31 ธันวาคม 2010 เพลดิสเอนเตอร์เทนเมนท์ ได้เปิดตัวสมาชิกคนที่ 9 ของอาฟเตอร์สกูล อียอง ( E-Young ) ในงาน MBC “ Music Festival ”

2011 : กาฮีโซโล่, “ virgo ”, เบคก้าจบการศึกษา, เปิดตัวที่ญี่ปุ่น, “ Red/Blue ” และ “ glad Pledis 2011 ” [แก้ ]

ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2011 เพลดิส ต้นสังกัดได้เปิดตัวยูนิตย่อยที่สองคือ Kahi ซึ่งเป็นผลงานเดี่ยวของกาฮีหัวหน้าวง มีผลงานเพลงรวม 4 เพลง ประกอบไปด้วย เพลงไตเติ้ล ‘돌아와 나쁜 너 ( Come Back You Bad ) ‘, ‘One Love ‘, ‘Gift ( 선물 ) ‘ และ ‘Roller Coaster ‘ กาฮีเคยได้ทำหน้าที่เป็นผู้ประพันธ์เพลงอย่าง ‘When I Fall ‘ และ ‘With U ‘ ในซิงเกิล ‘Because of You ‘, ‘Bang ! ‘ มาก่อนหน้านี้ การที่เธอได้กลับมาทำหน้าที่ประพันธ์เนื้อเพลงอีกครั้งให้กับเพลง ‘Come Back You Bad ‘ และ ‘Roller Coaster ‘ ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2011 เพลดิส ได้เปิดตัวเว็บไซต์หลักของอาฟเตอร์สกูลที่ญี่ปุ่น และได้เซ็นสัญญากับบริษัท AVEX ต้นสังกัดของ นะมิเอะ อะมุโระ นักร้องสาวชื่อดัง จากนั้นจึงได้เปิดตัวอาฟเตอร์สกูลที่ญี่ปุ่นในเพลง “ Make it Happen ” ของ นะมิเอะ อะมุโระ โดยมีอาฟเตอร์สกูลร่วมร้องและแสดงมิวสิควิดีโอด้วย
After School in December 2011 ในวันที่ 31 มีนาคม 2011 ยูนิตย่อย ออเรนจ์ คาราเมล ได้เปิดตัวโปรเจกต์ “ One of Asia ” ตอนที่ 1 “ Bangkok City ” พร้อมเริ่มทำกิจกรรมในนาม “ Chengzi Jiao Tang ( 橙子焦糖 ) ” ซึ่งเป็นชื่อของออเรนจ์ คาราเมล ที่เขียนเป็นภาษาจีน พวกเธอจะได้เริ่มทำกิจกรรมโดยเป็นส่วนหนึ่งในโปรเจกต์ที่จะใช้ธีมของเมืองต่างๆทั่วเอเชีย โดยในตอนแรกนั้นเริ่มต้นพร้อมกับธีมของ “ Bangkok City ” ที่พวกเธอนั้นได้แปลงโฉมเป็นสาวฟังกี้สุดเซ็กซี่ เมื่อรวมกับเสน่ห์อันแสนน่ารักโดดเด่นของพวกเธอก่อนหน้านี้ กับอารมณ์ในแบบแฟนตาซีและทรงผมในแบบฟังกี้ก็ช่วยเผยเสน่ห์สุดเซ็กซี่ชวนให้น่าหลงใหลเป็นอย่างมาก ซิงเกิล “ Bangkok City ” นั้นมาพร้อมกับทำนองแบบหนักๆตามสไตล์ดนตรีฟังกี้คลับ ผสมผสานไปกับซาวน์อิเล็คทรอนิคส์ที่ให้สัมผัสในแบบอนาลอค นับเป็นผลงานเพลงแนวมิกซ์แอนด์แมทช์ที่ให้อารมณ์ซาวน์ในรูปแบบใหม่ๆ โดยเฉพาะกับเนื้อเพลงในท่อน “ เขย่าดวงตาของชายคนหนึ่งสิบเอ็ดครั้งในหนึ่งวินาที / เรียกเธอมา kiss tonight ” ก็ถือเป็นเนื้อเพลงฝีมือการประพันธ์โดย ‘วอนแทยอน ‘ ที่สามารถช่วยเพิ่มความสนใจจากชาวเกาหลีได้เป็นอย่างมาก [ 1 ] แต่น่าเสียดายที่มุมของของเกาหลีมุ่งเน้นแต่เพียงเมืองหลวง ทำให้ขาดอรรถรสที่ชวนนึกถึงประเทศไทย อาฟเตอร์สกูลนั้นเป็นเกิร์ลกรุปที่มีระบบการเปลี่ยนแปลงสมาชิกอย่างต่อเนื่องภายใต้รูปแบบการรับนักเรียนใหม่และจบการศึกษาเหมือนเกิร์ลกรุปของญี่ปุ่น โดยแบ่งเป็นสมาชิกออกเป็น รุ่นที่ 1 ประกอบไปด้วย กาฮี จองอา จูยอน เบคก้า, รุ่นที่ 2 ยูอี, รุ่นที่ 3 เรนะ นานะ ลิซซี่ และรุ่นที่ 4 อียอง ในวันที่ 13 เมษายน 2011 เพลดิสเอนเตอร์เทนเมนท์ ได้ออกมาประกาศว่าอาฟเตอร์สกูลนั้นจะกลับมาพร้อมกับอัลบั้มเต็มชุดแรกภายในเดือนนี้ จากนั้นในวันที่ 18 เมษายน ภาพโปรโมทภาพแรกก็ได้ถูกปล่อยออกมา ซึ่งเป็นภาพของสมาชิกรุ่นที่ 4 อียอง โดยเป็นภาพที่เธอมัดผมทั้งสองข้างในชุดเดรสที่ชมพู ทำให้แฟนๆสัมผัสได้ถึงความงามในแบบฉบับของเด็กสาวได้เป็นอย่างดี ในวันที่ 19 เมษายน ได้ปล่อยภาพโปรโมทภาพที่ 2 ซึ่งเป็นภาพของสมาชิกรุ่นที่ 3 เรนะ นานะ ลิซซี่ และได้ปล่อยภาพโปรโมทภาพที่ 3 ซึ่งเป็นภาพของสมาชิกรุ่นที่ 2 ยูอี ในวันเดียวกัน ในวันที่ 20 เมษายน ภาพโปรโมทภาพสุดท้ายซึ่งเป็นภาพของสมาชิกรุ่นแรก กาฮี จองอา จูยอน และเบคก้า ก็ได้ถูกปล่อยออกมาพร้อมกับรายชื่อเพลงทั้งหมดในอัลบั้มรวมถึงเพลงที่จะใช้โปรโมทคือ “ Shampoo ” จากนั้นจึงได้ปล่อยมิวสิควิดีโอเพลง “ Shampoo ” ออกมาในวันที่ 27 เมษายน และได้วางจำหน่ายอัลบั้มเต็มชุดแรก Virgin ในวันที่ 29 เมษายน ทีมงานได้ถูกถามถึงผลงานอัลบั้มเต็ม Virgin ของอาฟเตอร์สกูล ที่วางจำหน่ายในรอบ 1 ปีหลังจากอัลบั้ม Bang! โดยทีมงานกล่าวว่า “ ทุกคนจะสามารถสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของ After School ที่จะเปลี่ยนแปลงไปจากลุคของสาวงามสุดมั่นในแบบเดิมๆ พวกเธอจะมาถ่ายทอดนิยามความงามในแบบ Virgin ผ่านผลงานอัลบั้มชุดนี้ครับ ” [ 2 ] ในวันที่ 17 มิถุนายน 2011 เพลดิสเอนเตอร์เทนเมนท์ ต้นสังกัดของอาฟเตอร์สกูล ได้เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ อาฟเตอร์สกูลจะมีนักเรียนที่จบการศึกษารุ่นแรก ซึ่งอาฟเตอร์สกูลเป็นวงเกิร์ลกรุปที่ได้รับความสนใจมาตั้งแต่เดบิวท์ด้วยระบบสมาชิกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ คือการเข้าโรงเรียนโดยการเพิ่มสมาชิกใหม่ และการจบการศึกษาโดยการลาออกของสมาชิกวง โดยนักเรียนที่จะจบการศึกษาในครั้งนี้ก็คือ เบคก้า ซึ่งต้นสังกัดกล่าวว่า “ หลังจากครุ่นคิดและปรึกษาหารือกับเพื่อนๆ ครอบครัว บริษัทมานาน เบคก้าก็ตัดสินใจโดยสรุปว่า เธอจะจบการศึกษาจากวงอาฟเตอร์สกูล และจะกลับไปฮาวายเพื่อทุ่มเทให้กับการเรียนออกแบบที่เธอใฝ่ฝัน ” เสริม “ ตอนนี้เราก็กำลังวางแผนเรื่องการถ่ายภาพจบการศึกษาของสมาชิกวงรวมกับเบคก้า ซึ่งอีกไม่นานก็จะมีการเปิดตัวผลงานจบการศึกษาของเบคก้า โดยเธอจะมาพบกับแฟนๆ ก่อนที่จะจบการศึกษาครับ ” ส่วนเบคก้าก็ได้กล่าวฝากมาทางต้นสังกัดว่า “ ตอนนี้ฉันกำลังเตรียมผลงานจบการศึกษาโดยรวมเอาประสบการณ์และช่วงเวลาที่มีความสุขตอนที่อยู่ด้วยกันมาจนกระทั่งถึงตอนนี้อยู่ค่ะ ต่อไป ถ้าทักษะการออกแบบของฉันเพิ่มขึ้น ฉันก็อยากจะออกแบบอัลบั้มของอาฟเตอร์สกูลให้เป็นของขวัญค่ะ ” อนึ่ง เบคก้าจะจบการทำกิจกรรมร่วมกับวงอาฟเตอร์สกูลในผลงานจบการศึกษาที่เธอเป็นผู้แต่งเนื้อเพลงเอง ซึ่งเพลงนี้จะกล่าวถึงความรู้สึกของเธอในการทำกิจกรรมกับอาฟเตอร์สกูลตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา [ 3 ] เพลงจบการศึกษาของเบคก้าคือเพลง Take Me To The Place ซึ่งเธอได้แต่งและขับร้องเอง ในเดือนกรกฎาคม เพลดิสได้ออกมาประกาศถึงการคัมแบ็คครั้งที่ 2 ของปีนี้ ซึ่งการคัมแบ็คในครั้งนี้จะกลับมาในรูปแบบของยูนิตย่อย “ A.S.RED ” และ “ A.S.BLUE ” โดย “ A.S.RED ” นั้นมาพร้อมกับภาพลักษณ์ในแบบทรงพลังและบรรยากาศที่ชวนให้น่าติดตามในแบบฉบับของออริจินัลริตี้ของอาฟเตอร์สกูล ในขณะที่ “ A.S.BLUE ” นั้นมาในสไตล์แบบสาวใสบริสุทธิ์ “ A.S.RED ” ประกอบไปด้วยสมาชิกคือ กาฮี จองอา ยูอี และนานะ มีเพลงโปรโมทคือ “ In The Night Sky ” ส่วน “ A.S.BLUE ” ประกอบไปด้วยสมาชิกคือ จูยอน เรนะ ลิซซี่ และอียอง มีเพลงโปรโมทคือ “ Wonder Boy ” ฮันซองซู โปรดิวเซอร์ของเพลดิสเปิดเผยว่า “ หลังจากที่ผ่านการพิจารณามาเป็นอย่างดีเราก็ได้ตัดสินใจวางจำหน่ายอัลบั้มของทั้งสองยูนิตพร้อมกัน โดยเฉพาะกับแนวเพลงและคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทำให้เราคาดหวังว่าทุกคนจะช่วยติดตามผลงานครั้งนี้ของพวกเธอให้มากๆด้วยครับ การที่เราแบ่งสมาชิกออกเป็นสองทีมทำให้พวกเธอได้แข่งขันกันเอง และนั่นทำให้พวกเธอทำงานด้วยความสนุกและเต็มที่กับมันมากๆ เหนือสิ่งอื่นใดคือการที่เราได้นำเสนอความงามของอาฟเตอร์สกูลออกเป็นสองรูปแบบมันทำให้เป็นอะไรที่มีความหมายมากๆ ” เขากล่าว [ 4 ] ในวันที่ 17 สิงหาคม 2011 อาฟเตอร์สกูลได้เดบิวต์ที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการด้วยซิงเกิลแรก “ Bang ! ” เวอร์ชันภาษาญี่ปุ่น โดยอยู่ในอันดับ 7 ของออริกอนชาร์ต ในวันที่ 13 ตุลาคม 2011 ยูนิตย่อย ออเรนจ์ คาราเมล ได้คัมแบ็คโปรเจกต์ “ One of Asia ” ตอนที่ 2 “ Shanghai Romance ” โดยได้เลือกเมืองเซี่ยงไฮ้ของประเทศจีนเป็นธีมของการคัมแบ็คซิงเกิลในครั้งนี้

ในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2011 อาฟเตอร์สคูลได้คัมแบ็คที่ประเทศญี่ปุ่นด้วยซิงเกิลที่สอง “ Diva ” เวอร์ชันภาษาญี่ปุ่น ในวันที่ 1 ธันวาคม 2011 เพลดิสเอนเตอร์เทนเมนท์ ได้ปล่อยซิงเกิลใหม่ Happy Pledis 2011 ซึ่งเป็นซิงเกิลที่ 2 ในโปรเจกต์ “ felicitous Pledis ” โดยในคราวนี้ได้ ซนดัมบิ, อาฟเตอร์สกูล, ศิลปินฝึกหัดในค่าย รวมถึงบอยแบนด์กลุ่มใหม่ของเพลดิสที่มีกำหนดจะเดบิวต์ในปีหน้า มาร่วมกันโปรโมทในอัลบั้มนี้ ซึ่งรายได้ส่วนหนึ่งของอัลบั้มนี้จะถูกนำไปบริจาคให้กับองค์กร ยูนิเซฟ เพื่อช่วยเหลือเด็กๆต่อไป ในวันที่ 17 ธันวาคม 2011 อาฟเตอร์สกูลได้ขึ้นแสดงในคอนเสิร์ต MTV EXIT ในกรุง พนมเปญ ประเทศ กัมพูชา ร่วมกับวง เดอะคลิกไฟฟ์ วงดนตรีจากประเทศสหรัฐอเมริกา [ 11 ]
อาฟเตอร์สกูลเริ่มต้นปี 2012 ด้วยการปล่อยซิงเกิลภาษาญี่ปุ่นชุดที่สาม “ Rambling Girls/Because of You ” ซึ่งเพลง “ Rambling Girls ” นั้นเป็นเพลงที่ได้แต่งขึ้นมาใหม่ ส่วนเพลง “ Because of You ” นั้นเป็นการนำเอาเพลงนี้ในเวอร์ชันภาษาเกาหลีมาทำใหม่เป็นเวอร์ชันภาษาญี่ปุ่น ซิงเกิลนี้ถูกปล่อยออกมาในวันที่ 25 มกราคม 2012 โดยสามารถขึ้นอันดับ 6 ของออริกอนชาร์ตรายวัน และอันดับ 7 ของออริกอนชาร์ตรายสัปดาห์ได้สำเร็จ ซิงเกิลนี้สามารถทำยอดขายไปได้มากกว่า 17,000 แผ่นในญี่ปุ่น ในวันที่ 14 มีนาคม 2012 อาฟเตอร์สกูลได้ปล่อยอัลบั้มเต็มภาษาญี่ปุ่นชุดแรก Playgirlz ซึ่งนอกจากจะมีซิงเกิลที่ปล่อยออกมาทั้งสามซิงเกิลรวมอยู่ด้วยแล้ว ยังมีเพลงที่แต่งขึ้นมาใหม่ถึง 6 เพลง รวมไปถึงการนำเพลง “ Shampoo ” และเพลง “ Shanghai Romance ” ของออเรนจ์คาราเมล มาทำใหม่ในเวอร์ชันภาษาญี่ปุ่นรวมอยู่ด้วย อัลบั้มนี้สามารถขึ้นไปอยู่ที่อันดับ 6 ของออริกอนอัลบั้มชาร์ตรายวันได้สำเร็จ จากการทำยอดขายได้มากกว่า 11,000 แผ่นภายในวันแรกที่ถูกปล่อยออกมา และอยู่ในอันดับที่ 9 ของยอดดาวน์โหลดใน iTunes Japan
After School in July 2012 ในวันที่ 9 เมษายน 2012 เพลดิสเอนเตอร์เทนเมนท์ต้นสังกัดได้ออกมาประกาศให้ทราบถึงการเพิ่มสมาชิกใหม่ของอาฟเตอร์สกูล ซึ่งในวันต่อมาก็ได้มีการเปิดเผยว่าสมาชิกคนดังกล่าวนั้นก็คือ กาอึน ซึ่งเป็นสมาชิกรุ่นที่ 5 ของอาฟเตอร์สกูล และจะเข้าร่วมในซิงเกิลอัลบั้มชุดที่ 5 ที่จะปล่อยออกมาในวันที่ 21 มิถุนายนที่จะถึงนี้ อาฟเตอร์สกูลเริ่มการทัวร์คอนเสิร์ตในญี่ปุ่นครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2012 โดยใช้ชื่อว่า “ AFTERSCHOOL 1st Japan Tour -PLAYGIRLZ- ” โดยเริ่มที่กรุง โตเกียว ในวันที่ 27 เมษายน, นะโงะยะ ในวันที่ 28 เมษายน, โอซะกะ ในวันที่ 30 เมษายน และปิดท้ายที่โตเกียวอีกครั้ง ในวันที่ 17 มิถุนายน ที่ Tokyo Dome City Hall ในวันที่ 23 เมษายน 2012 ทางเอเว็กซ์ แทรกซ์ ต้นสังกัดที่ญี่ปุ่นได้ออกมาประกาศถึงเรื่องของการปล่อยซิงเกิลภาษาญี่ปุ่นชุดที่ 4 “ Lady Luck/Dilly Dally ” ซึ่งมีกำหนดการจะปล่อยในวันที่ 13 มิถุนายน 2012 โดยหลังจากที่ได้ปล่อยออกมานั้น ซิงเกิลนี้ก็สามารถขึ้นอันดับ 3 ของออริกอนชาร์ตรายวันได้สำเร็จ และสามารถทำยอดขายได้มากกว่า 17,000 แผ่นในญี่ปุ่นตลอดทั้งปี 2012 ในวันที่ 5 มิถุนายน 2012 ทางเพลดิสต้นสังกัดได้ออกมายืนยันถึงการจบการศึกษาหัวหน้าวงกาฮี ซึ่งเป็นการจบการศึกษาเป็นคนที่ 3 ของวงอาฟเตอร์สกูล ทั้งนี้กาฮีจะทำกิจกรรมในฐานะอาฟเตอร์สกูลไปจนถึงเดือนกันยายน และจะออกจากวงเพื่อเตรียมตัวสู่การเป็นศิลปินเดี่ยวต่อไป ในวันที่ 11 มิถุนายน 2012 รูปภาพโปรโมทสำหรับการคัมแบ็คซิงเกิลอัลบั้มชุดที่ 5 ได้ถูกปล่อยออกมาเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นรูปรวมสมาชิกทั้ง 8 คนรวมไปถึงสมาชิกใหม่อย่างกาอึนด้วย ต่อมาจึงได้เปิดเผยรายชื่อเพลงทั้งหมดในอัลบั้ม รวมถึงชื่อของซิงเกิลอัลบั้มชุดนี้นั่นก็คือ “ Flashback ” ซึ่งจะเป็นชื่อเดียวกันกับเพลงที่จะใช้โปรโมทในครั้งนี้ ในวันต่อมา ภาพโปรโมทภาพที่ 2 ได้ถูกปล่อยออกมา ซึ่งเป็นภาพเดี่ยวของลิซซี่ จากนั้นภาพเดี่ยวของสมาชิกทุกคนจึงได้ทยอยปล่อยออกมา จากลิซซี่ต่อด้วยยูอี, จองอา, นานะ, เรนะ, จูยอน, อียอง และปิดท้ายด้วยกาอึน ในวันที่ 16 มิถุนายน 2012 ตัวอย่างมิวสิควิดีโอเพลง “ Flashback ” ได้ถูกปล่อยออกมาเป็นครั้งแรก ซึ่งหลังจากถูกปล่อยออกมาก็มียอดการเข้าชมมากกว่า 100,000 ครั้งภายใน 24 ชั่วโมง จากนั้นมิวสิกวิดีโอฉบับเต็มจึงได้ถูกปล่อยตามมาในเที่ยงคืนของวันที่ 20 มิถุนายน ซึ่งหลังจากปล่อยออกมาก็สามารถขึ้นสู่อันดับ 1 ของชาร์ตเพลงได้ทุกชาร์ต ซึ่งนับเป็นกระแสการตอบรับที่ดีมากหลังจากไม่มีผลงานในเกาหลีมาเป็นระยะเวลาเกือบ 1 ปีเต็ม
อาฟเตอร์สกูลได้จัดแฟนมีตติ้งขึ้นที่ ประเทศไทย ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2013 และที่ ประเทศไต้หวัน ในวันที่ 30 มีนาคม 2013
After School at a winnow suffer in 2013 ในวันที่ 27 มีนาคม 2013 อาฟเตอร์สคูลได้ทำการปล่อยอัลบั้ม The Best of AFTERSCHOOL ซึ่งเป็นอัลบั้มรวมเพลงที่ได้รับความนิยมของอาฟเตอร์สคูลตั้งแต่เดบิวต์ พร้อมๆกับได้ปล่อยดีวีดีบันทึกการแสดง AFTERSCHOOL First Japan Tour 2012 -PLAYGIRLZ- ซึ่งเป็นดีวีดีบันทึกการแสดงคอนเสิร์ตในญี่ปุ่นของพวกเธอด้วย ในวันที่ 13 มิถุนายน 2013 อาฟเตอร์สกูลได้ปล่อยซิงเกิลอัลบั้มชุดที่ 6 “ first Love ” ซึ่งมีเพลงโปรโมทที่ใช้ชื่อเดียวกัน ซิงเกิลชุดนี้เป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของอาฟเตอร์สกูลกับโปรดิวเซอร์ Brave Brothers หลังจากที่เคยได้ร่วมงานกันในซิงเกิล “ Because of You ” เมื่อปี 2009 ในการกลับมาครั้งนี้สมาชิกได้มีการปรับเปลี่ยนลุคส์และภาพลักษณ์ที่มีเสน่ห์ของพวกเธอเข้าไปโดยการเต้น Pole Dance ทื่แสนหรู พวกเธอฝึกฝนกันนานเป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยมีผู้บาดเจ็บคือ ลิซซี่ ที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณเท้าและขา และเรนะที่ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณแขนและข้อมือ ในวันที่ 2 ตุลาคม 2013 อาฟเตอร์สกูลได้ออกผลงานซิงเกิลภาษาญี่ปุ่นชุดที่ 5 “ Heaven ” ซึ่งเปิดตัวที่อันดับ 6 บนออริกอนชาร์ต และทำยอดขายได้มากกว่า 18,000+ ก็อปปี้ในสัปดาห์แรกที่ปล่อยซิงเกิลออกมา ในวันที่ 15 ธันวาคม 2013 ได้มีการปล่อยทีเซอร์มิวสิควิดีโอซิงเกิลภาษาญี่ปุ่นชุดที่ 6 ของอาฟเตอร์สคูล “ Shh ” ต่อมาในวันที่ 17 ธันวาคม ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง MTV Japan ได้ออกอากาศมิวสิควิดีโอเพลงนี้เป็นครั้งแรก ก่อนที่ทางช่องหลักของ Avex Trax ในเว็บไซต์ยูทูปจะปล่อยมิวสิควิดีโออย่างเป็นทางการในอีก 2 วันถัดมา

2014 : “ Shh ”, “ dress to Kill ”, เรนะโซโล่ และ จูยอนจบการศึกษา [แก้ ]

ในวันที่ 29 มกราคม 2014 อาฟเตอร์สกูลได้วางจำหน่ายซิงเกิลอัลบั้มภาษาญี่ปุ่นชุดที่ 6 “ Shh ” หลังจากที่ได้ทำการปล่อยมิวสิควิดีโอไปแล้วเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยซิงเกิลนี้เปิดตัวที่อันดับ 7 บนออริกอนชาร์ต และทำยอดขายได้มากกว่า 16,000+ ก็อปปี้ในสัปดาห์แรกที่ปล่อยซิงเกิลออกมา ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2014 อาฟเตอร์สกูลได้ปล่อยซิงเกิล “ week ” ซึ่งเป็นซิงเกิลในโปรเจกต์พิเศษเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีของ Brave Brothers ซึ่งนี้ทำให้อาฟเตอร์สกูลได้กลับมาทำงานร่วมกับ Brave Brothers อีกครั้ง ในวันที่ 19 มีนาคม 2014 อาฟเตอร์สกูลได้ทำการปล่อยอัลบั้มเต็มภาษาญี่ปุ่นชุดที่ 2 Dress to Kill ซึ่งได้ปล่อยออกมาถึง 3 เวอร์ชันด้วยกัน ในวันที่ 28 กันยายน 2014 เพลดิสเอนเตอร์เทนเมนท์ ได้ประกาศว่าเรนะหนึ่งในสมาชิกของอาฟเตอร์สกูลจะทำการปล่อยผลงานเดี่ยวชุดแรกที่ใช้ชื่อว่า “ Reset ” โดยมีเพลงโปรโมทอย่าง ‘You end, And Me ‘ ที่ได้นักร้องฮิปฮอป คันโตะ จากวงทรอย ( Troy ) มาร่วมร้องในซิงเกิลนี้ด้วย อาฟเตอร์สกูลเริ่มต้นการทัวร์คอนเสิร์ตในประเทศญี่ปุ่นครั้งที่ 2 ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2014 โดยใช้ชื่อว่า “ Dress to SHINE ” ที่กรุงโตเกียว และสิ้นสุดในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2014 ที่กรุงโอซะกะ ในวันที่ 31 ธันวาคม 2014 เพลดิสเอนเตอร์เทนเมนท์ต้นสังกัดของอาฟเตอร์สกูลได้ออกมาแถลงว่า จูยอนนั้นได้หมดสัญญากับทางต้นสังกัดแล้ว และเธอตัดสินใจที่จะไม่ต่อสัญญา ทำให้เธอเป็นสมาชิกคนที่ 4 ที่จบการศึกษาจากวงอาฟเตอร์สกูล อนึ่ง จูยอนนั้นได้เขียนจดหมายถึงแฟนๆบอกถึงเหตุผลของการจบการศึกษาในครั้งนี้ นั่นเพราะเธอต้องการที่จะผันตัวไปเป็นนักแสดง

2015 : อัลบั้มภาษาญี่ปุ่น Best [แก้ ]

ในวันที่ 23 มกราคม 2015 ลิซซี่ หนึ่งในสมาชิกอาฟเตอร์สกูล ได้ปล่อยผลงานเดี่ยวซิงเกิลชุดแรก “ not An easy Girl ” ( 쉬운 여자 아니에요 ) ซึ่งเป็นเพลงในรูปแบบทร็อต ( เพลงลูกทุ่งของเกาหลี ) ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2015 อาฟเตอร์สกูลได้ปล่อยซิงเกิลภาษาญี่ปุ่น “ Shine ” เพื่อเป็นซิงเกิลโปรโมทสำหรับอัลบั้ม Best ซึ่งเป็นอัลบั้มรวมเพลงภาษาญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมของอาฟเตอร์สกูล ที่จะวางขายในวันที่ 18 มีนาคม 2015
เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา แหล่งข่าวจาก Pledis Entertainment กล่าวว่า “ ปัจจุบันเรากำลังพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการต่อสัญญาใหม่กับเธออยู่ ” แหล่งข่าวจากสื่อก่อนหน้าบอกว่า ยูอี จะรับงานอิสระและอาจจะออกจากบริษัท หลังจากที่สัญญาสิ้นสุดลงในเดือนพฤษภาคม ยูอี เป็นสมาชิกของ After School ตั้งแต่ปีพ. ศ. 2009 และได้รับบทละครหลายเรื่องเช่น “ High Society ”, “ Marriage Contract ” และ “ Night Light ”

2018 : ลิซซี่ จบการศึกษา, PRODUCE48 [แก้ ]

  • ลิซซี่ ได้หมดสัญญาและเลือกไม่ต่อสัญญากับ Pledis
  • กาอึน เข้าร่วม PRODUCE48 ตอนที่ 12 กาอึนได้อันดับ 14 โดนโกงผลการโหวต(อันดับจริงอันดับ5)คัดออกจากรายการและไม่สามรถเป็นสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป ไอซ์วัน ได้

ในวันที่ 4 เดือน กรกฎาคม ปี 2019 กาอึน ได้หมดสัญญาและพิจารณาว่าจะไม่ต่อสัญญาใหม่กับ Pledis และ สัญญาของกาอึนกับสังกัดจะสิ้นสุดลงในวันที่ 6 กรกฎาคม 2019
อีย็อง จะไม่ต่อสัญญาใหม่กับ Pledis
อาฟเตอร์สกูลมีระบบการเข้าเรียนและสำเร็จการศึกษาที่หมุนเวียน [ 12 ]

Read more: S.S. Lazio

สมาชิกปัจจุบัน [แก้ ]

  • นานา

อดีตสมาชิก [แก้ ]

  • โซย็อง 2009
  • เบคก้า 2009 – 2011
  • กาฮี 2009 – 2012
  • จูย็อน 2009 – 2015
  • จ็องอา 2009 – 2016
  • ยูอี 2009 – 2017
  • ลิซซี 2010 – 2018
  • กาอึน 2012 – 2019
  • เรนา 2009 – 2019
  • อีย็อง 2011 – 2020
  • 2012: อาฟเตอร์สกูลเฟิสต์เจแปนทัวร์ “เพลย์เกิร์ล”
  • 2014: อาฟเตอร์สกูลเซเคินด์เจแปนทัวร์ “เดรสทูชายน์”