สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ ( อังกฤษ : Massachusetts Institute of Technology, ตัวย่อ เอ็มไอที [ MIT ], เรียกโดยชุมชน MIT ว่า “ the Institute แปลว่า สถาบัน ” ) เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนในเมือง เคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ที่มีชื่อเสียงมานานในเรื่องงานวิจัยและการศึกษาในสาขา เคมี ฟิสิกส์ และ วิศวกรรมศาสตร์ สาขาต่างๆ แล้วเริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นต่อ ๆ มาในสาขา ชีววิทยา เศรษฐศาสตร์ ภาษาศาสตร์ และการจัดการ MIT ตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1861 เพราะการพัฒนาทางอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในสหรัฐ MIT ใช้รูปแบบมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคของยุโรป ที่เน้นการศึกษาในห้องปฏิบัติการ และเพราะเน้นเรื่องเทคโนโลยีประยุกต์ในระดับปริญญาตรีและระดับบัณฑิตศึกษามาตั้งแต่ต้น จึงมีการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดกับธุรกิจและอุตสาหกรรม ในคริสต์ทศวรรษ 1930 ภายใต้การดูแลของอธิการบดีคาร์ล คอมป์ตัน และรองอธิการบดีแวเนวาร์ บุช สถาบันได้เริ่มเปลี่ยนไปเน้นการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ในปี ค.ศ. 1934 MIT ได้รับเลือกเป็นสมาชิก สมาคมมหาวิทยาลัยอเมริกัน ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ความกว้างขวางและคุณภาพของโปรแกรมงานวิจัยและการศึกษาของสถาบัน ในช่วง สงครามโลกครั้งที่ 2 และ สงครามเย็น นักวิจัยในสถาบันทำงานเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์ เรดาร์ และระบบนำวิถีอาศัยหลักความเฉื่อย ( inertial navigation system ) ภายใต้การนำของอธิการบดีเจมส์ คิลเลียน ในช่วง ค.ศ. 1948-1959 MIT ได้ขยายทั้งคณะศึกษาและทั้งสิ่งก่อสร้างในบริเวณมหาวิทยาลัยออกอย่างรวดเร็วโดยอาศัยงานวิจัยทางการทหาร วิทยาเขตในปัจจุบันที่มีขนาด 425 ไร่ได้เปิดใช้ในปี ค.ศ. 1916 ที่ครอบคลุมเนื้อที่กว่า 1.6 ตาราง กม. ทางด้านทิศเหนือของแม่น้ำชาลส์

ในปัจจุบัน MIT มีคณะถึง 32 คณะรวมอยู่ใน 5 โรงเรียน ( educate ) เป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่เลิศที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง [ 9 ] [ 10 ] [ 11 ] [ 12 ] โดยปี ค.ศ. 2014 มีบุคคลผู้สืบเนื่องกับมหาวิทยาลัยผู้ได้รับ รางวัลโนเบล ถึง 91 คน ได้รับเหรียญวิทยาศาสตร์แห่งชาติ สหรัฐอเมริกา ( National Medal of Science ) 58 คน ได้ทุนการศึกษาโรดส์ สคูลาร์ส 48 คน เป็น MacArthur Fellow 50 คน เป็น Fields Medalists 8 คน [ a ] MIT เป็นมหาวิทยาลัยที่เข้ายากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา ในรุ่นนักศึกษาปริญญาตรีปี ค.ศ. 2018 ( ปีรับ 2014 ) มีผู้สมัคร 18,356 คน สถาบันรับไว้ 1,447 คน คือมีอัตราการรับผู้สมัคร ( ระดับปริญญาตรี ) ที่ร้อยละ 7.9 [ 13 ] นอกจากการศึกษาและงานวิจัยแล้ว MIT ยังมี วัฒนธรรม ในการเริ่มกิจการธุรกิจอีกด้วย รายได้ของบริษัทที่ศิษย์เก่าช่วยกันตั้งขึ้น รวมทั้งหมดจะประกอบเป็นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 11 ของโลก [ 14 ] ทีมกีฬาของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อว่า “ ดิเอนจิเนียส์ ” ( the Engineers ) แข่งขันในกีฬา 31 ประเภท โดยมากแข่งในภาค 3 ของสมาคมกีฬาวิทยาลัยแห่งชาติ ( National Collegiate Athletic Association ) และในภาค 1 เฉพาะในกีฬาพายเรือ โดยเป็นโรงเรียนหนึ่งในสมาคมวิทยาลัยเพื่อกีฬาพายเรือทิศตะวันออก ( Eastern Association of Rowing Colleges ) สำหรับนักกีฬาพายเรือชาย และสมาคมวิทยาลัยเพื่อกีฬาพายเรือหญิงทิศตะวันออก ( Eastern Association of Women ‘s Rowing Colleges ) สำหรับนักกีฬาพายเรือหญิง

… มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์เชิงอุตสาหกรรมที่อำนวยความก้าวหน้า การพัฒนา และการประยุกต์ใช้ วิทยาศาสตร์ โดยเชื่อมต่อกับ ศิลปะ เกษตรกรรม การผลิต และพาณิชย์— รัฐบัญญัติจัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ขึ้น
รัฐบัญญัติปี ค.ศ. 1861 หมวด 183

ในปี ค.ศ. 1859 มีการเสนอต่อรัฐสภาของ รัฐแมสซาชูเซตส์ ที่จะใช้พื้นที่ที่ถมเต็มขึ้นใหม่ ๆ ในย่านแบล็กเบย์ ( Black Bay ) ในเมือง บอสตัน สำหรับโรงเรียน ( Conservatory ) เพื่อ ศิลปศาสตร์ และ วิทยาศาสตร์ แต่ข้อเสนอไม่ผ่านอนุมัติ [ 15 ] [ 16 ] แต่เพราะฎีกาที่เสนอต่อมาโดยศาสตราจารย์วิลเลียมส์ บาร์ตัน รอเจอส์ กฎหมายเพื่อสถาปนาสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ขึ้น ก็ผ่านการอนุมัติจากผู้ว่าการรัฐแมสซาชูเซตส์ จอห์น แอนดรู ในวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 1861 ( พ.ศ. 2404 ) [ 17 ] ศ.รอเจอส์ผู้มาจาก มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย ต้องการก่อตั้งสถาบันเพื่อเตรียมพร้อมกับความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่กำลังเป็นไปอย่างรวดเร็ว [ 18 ] [ 19 ] เขาไม่ได้ประสงค์จะก่อตั้งสถาบันการศึกษาเชิงวิชาชีพ แต่ต้องการที่จะผสมผสานการศึกษารวมทั้งวิชาชีพและการศึกษาเสรี ( liberal education ) [ 20 ] โดยเขียนบันทึกไว้ว่า
แผนการของ ศ.รอเจอส์ เป็นความคิดสะท้อนรูปแบบมหาวิทยาลัยวิจัยของคนเยอรมันในยุคคริสต์ศตวรรษที่ 19 และ 20 ที่เน้นทั้งคณะวิชาการต่าง ๆ ที่ทำงานวิจัยได้อย่างเป็นอิสระ และที่เน้นทั้งการเรียนการสอนในรูปแบบของ การสัมมนา และการปฏิบัติจริงในห้องแล็บ [ 22 ] [ 23 ]
2 วันหลังจากที่กฎหมายก่อตั้งสถาบันได้รับอนุมัติ การสู้รบครั้งแรกของ สงครามกลางเมืองอเมริกัน ก็เกิดขึ้น หลังจากความเนิ่นช้าเพราะเหตุแห่งสงครามเป็นเวลาหลายปี การสอนชั้นแรก ๆ จึงได้เกิดขึ้นในอาคาร Mercantile Building ในเมือง บอสตัน ในปี ค.ศ. 1865 ( พ.ศ. 2408 ) [ 24 ] สถาบันใหม่นี้มีเป้าหมายที่เป็นไปตามจุดประสงค์ของกฎหมายรัฐบาลกลางชื่อว่า Morrill Land-Grant Colleges Act ( ค.ศ. 1862 ) ที่ให้ทุนแก่สถาบันต่าง ๆ เพื่อ “ ส่งเสริมการศึกษาเสรีที่ประยุกต์ใช้ได้ทางอุตสาหกรรม ” และเป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับผลประโยชน์มาจากการให้ที่ดินของรัฐบาลกลาง ( เป็น land-grant school ) [ 25 ] [ b-complex vitamin ] ในปี ค.ศ. 1866 มีการใช้เงินที่ได้จากการขายที่ดินเพื่อสร้างอาคารใหม่ที่ย่านแบล็กเบย์ ในเมือง บอสตัน [ 26 ] MIT เคยมีชื่อไม่เป็นทางการว่า “ บอสตันเทค “ ( Boston Tech ) สถาบันได้ใช้รูปแบบการสอนในมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคของชาวยุโรป และได้เน้นการศึกษาในห้องแล็บมาตั้งแต่ยุคเบื้องต้น [ 27 ] หลังจากช่วงเวลาหนึ่งที่มีสถานะการเงินที่ไม่มั่นคง สถาบันก็เริ่มเจริญเติบโตขึ้นในช่วง 2 ทศวรรษสุดท้ายของคริสต์ศตวรรษที่ 19 ภายใต้การดูแลของอธิการบดีฟรานซิส วอร์กเกอร์ [ 28 ] ได้เริ่มหลักสูตรการศึกษาในสาขา วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมเคมี วิศวกรรมทางทะเล ( marine mastermind ) วิศวกรรมสุขาภิบาล ( sanitary engineer ) [ 29 ] [ 30 ] และได้สร้างอาคารใหม่ ๆ ขึ้น โดยมีจำนวนนักศึกษาเพิ่มขึ้นเกินกว่าพัน [ 28 ] หลังจากนั้น หลักสูตรของสถาบันก็ค่อย ๆ กลายไปมุ่งด้านอาชีพเพิ่มขึ้น โดยเน้นวิทยาศาสตร์เชิงทฤษฎีน้อยลง [ 31 ] เพราะผู้นำสถาบันยังต้องเอาใจใส่ปัญหาการเงินที่มีอยู่เรื่อย ๆ และในช่วงยุคสมัยของ บอสตันเทค นี้ ทั้งคณะวิชาการต่าง ๆ และทั้งศิษย์เก่าก็ได้คว่ำบาตรความพยายามของอธิการบดี มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ชาลส์ อีเลียต ( ผู้เป็นอดีตศาสตราจารย์ของสถาบันด้วย ) ที่จะรวม MIT เข้ากับโรงเรียนวิทยาศาสตร์ลอว์เร็นซ์ ( Lawrence Scientific School ) ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด [ 32 ] ซึ่งเป็นความพยายามอย่างน้อย 6 ครั้ง [ 33 ] แม้ว่าสถานที่ในย่านแบล็กเบย์จะคับแคบ แต่สถาบันก็ไม่มีกำลังทางการเงินที่จะขยายอุปกรณ์อาคาร จึงต้องสืบหาทั้ง วิทยาเขต และเงินสนับสนุนใหม่ ๆ อย่างไร้ความหวัง จนในที่สุด คณะทรัสตีของสถาบันก็ได้อนุมัติข้อตกลงที่จะรวมสถาบันเข้ากับมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แม้ว่าทั้งคณะอาจารย์ นักศึกษา และศิษย์เก่าจะคัดค้านอย่างรุนแรง [ 33 ] แต่ต่อมาในปี ค.ศ. 1917 การตัดสินของศาลสูงสุดของ รัฐแมสซาชูเซตส์ ก็ได้ยุติแผนการที่จะรวมสถาบันทั้งสองเข้าด้วยกัน [ 33 ]
ในปี ค.ศ. 1916 สถาบันได้ย้ายไปที่กว้างแห่งใหม่ซึ่งเป็นบริเวณที่ยาว 1.6 กม. ทางฝั่งเมือง เคมบริดจ์ ของแม่น้ำชาลส์ เป็นที่ดินที่ส่วนหนึ่งเป็นที่ถมขึ้น [ 34 ] [ 35 ] การก่อสร้างวิทยาเขตแบบ “ เทคโนโลยีใหม่ ” โดยใช้ สถาปัตยกรรมฟื้นฟูคลาสสิก ออกแบบโดยวิลเลียม บอสเวอร์ธ ( ผู้ได้รับการศึกษาโดยส่วนหนึ่งที่สถาบัน ) ก็เริ่มขึ้น [ 36 ] โดยได้ทุนส่วนมากมาจากผู้บริจาคลึกลับนิรนามที่รู้จักโดยชื่อว่า “ นายสมิธ ” ผู้ที่ภายใน 8 ปีหลังจากการมอบเงินบริจาคงวดแรก ได้เปิดเผยว่าคือนักอุตสาหกรรม จอร์จ อีสต์แมน ของเมือง รอเชสเตอร์ รัฐนิวยอร์ก ผู้ประดิษฐ์วิธีการผลิต ฟิลม์ถ่ายภาพ และการล้างฟิลม์ และได้ก่อตั้งบริษัท อีสต์แมนโกดัก ขึ้น คือในช่วงปี ค.ศ. 1912-1920 นายอีสต์แมนได้บริจาคเงินสดและหุ้นของบริษัทเป็นมูลค่ารวม 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่สถาบัน ( เท่ากับเงินในปี ค.ศ. 2015 เป็น 236 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8,000 ล้านบาท ) [ 37 ]
ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1930 อธิการบดีคาร์ล คอมป์ตัน และรองอธิการบดีแวเนวาร์ บุช เริ่มเน้นความสำคัญของวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐานเช่น ฟิสิกส์ และ เคมี และลดระดับการเรียนภาคปฏิบัติในการอาชีพที่ต้องทำในแล็บและในสตูดิโอวาดภาพลง [ 38 ] การปรับปรุงของอธิการบดีคอมป์ตัน “ เสริมสร้างความมั่นใจในสมรรถภาพของสถาบันในความเป็นผู้นำทางด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ ” [ 39 ] และโดยที่ไม่เหมือนกลุ่มมหาวิทยาลัย ไอวีลีก ( มหาวิทยาลัยเก่าแก่มีชื่อเสียงมีเงินทุนมากของสหรัฐ ) MIT มีเป้าหมายเป็นนักศึกษาในกลุ่มชนชั้นกลางมากกว่า และต้องอาศัยค่าเล่าเรียนมากกว่าอาศัยกองทุนสะสมทรัพย์ ( endowment ) หรือเงินบริจาค ( grant ) [ 40 ] MIT ได้รับเลือกเป็นสมาชิกของ สมาคมมหาวิทยาลัยอเมริกัน ในปี ค.ศ. 1934 [ 41 ] ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ความกว้างขวางและคุณภาพของโปรแกรมงานวิจัยและการศึกษาของสถาบัน แต่แม้จะได้ปรับปรุงหลักสูตรแล้ว ในปี ค.ศ. 1949 คณะกรรมการของ ศ.ลิวอิสก็ยังบ่นในรายงานการศึกษาที่ MIT ว่า “ ชนทั้งหลายเห็นสถาบันว่าเป็นเพียงโรงเรียนฝึกอาชีพ ” ซึ่งเป็นความรู้สึก “ ที่ไม่ค่อยมีเหตุผล ” ที่คณะกรรมการต้องการที่จะเปลี่ยน คณะกรรมการได้สำรวจหลักสูตรการศึกษาระดับปริญญาตรีอย่างละเอียดละออ แล้วแนะนำหลักสูตรการศึกษาที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้น และเตือนถึงการไม่ควรปล่อยให้งานวิจัยทางวิศวกรรมและงานวิจัยที่รัฐบาลสนับสนุน ดึงเอาทรัพยากรไปจากคณะวิทยาศาสตร์และคณะมนุษยศาสตร์ [ 42 ] [ 43 ] ในปี ค.ศ. 1950 โรงเรียน มนุษยศาสตร์ ศิลปศาสตร์ และ สังคมศาสตร์ ( MIT School of Humanities, Arts, and Social Sciences หรือ HASS ) และโรงเรียนการบริหารสโลน ( MIT Sloan School of Management ) ก็เกิดการจัดตั้งขึ้น แข่งขันกับโรงเรียนวิทยาศาสตร์ ( MIT School of Science ) และโรงเรียนวิศวกรรมศาสตร์ ( MIT School of Engineering ) ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ดังนั้น คณะการศึกษาในสาขา เศรษฐศาสตร์ การบริหาร รัฐศาสตร์ และ ภาษาศาสตร์ ที่ก่อนหน้านี้ไม่สำคัญ จึงได้เจริญขึ้นเป็นคณะที่มีบทบาทด้วยกลยุธที่ดึงดูดศาสตราจารย์ที่มีชื่อเสียงมาที่คณะ และจัดตั้งหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษาที่แข่งกับมหาวิทยาลัยอื่นได้ [ 44 ] [ 45 ] โรงเรียนมนุษยศาสตร์ ศิลปศาสตร์ และสังคมศาสตร์ ยังได้โอกาสพัฒนาขึ้นในเวลาต่อ ๆ มา ในสมัยที่สืบต่อกันของผู้นำที่เห็นความสำคัญของวิชาการทางสังคมคืออธิการบดีเฮาวาร์ด จอห์นสัน และอธิการบดีเจโรม ไวสเนอร์ ในระหว่างช่วงปี ค.ศ. 1966-1980 [ 46 ]
MIT มีส่วนร่วมในงานวิจัยทางทหารของรัฐบาลกลางที่เพิ่มขึ้นในระหว่าง สงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี ค.ศ. 1941 รองอธิการบดีแวเนวาร์ บุช ได้รับตำแหน่งเป็นหัวหน้าของสำนักงานการวิจัยและการพัฒนาวิทยาศาสตร์ ( Office of Scientific Research and Development ) ของรัฐบาลกลาง และได้ให้เงินสนับสนุนงานวิจัยกับมหาวิทยาลัยกลุ่มหนึ่งรวมทั้ง MIT [ 47 ] ดังนั้น วิศวกรและนักวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศจึงได้มารวมตัวกันที่แล็บรังสี ( Radiation Laboratory ) ที่ตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1940 เพื่อช่วย ประเทศอังกฤษ พัฒนาระบบ เรดาร์ งานที่ทำในช่วงนั้นมีอิทธิพลต่อทั้งสงครามต่อทั้งงานวิจัยเกี่ยวกับเรดาร์ต่อ ๆ มา [ 48 ] โปรเจ็กต์ทางทหารอื่น ๆ รวมทั้ง
ก่อนสงครามโลกจะยุติลง MIT ได้กลายเป็นสถาบันเพื่องานวิจัยและพัฒนา ( R & D ) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ( ซึ่งทำให้รองอธิการบดีบุชได้รับคำติเตียน ) [ 47 ] มีบุคคลากรเกือบ 4,000 คนในแล็บรังสีแห่งเดียว [ 48 ] และได้รับเงินกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ประมาณ 1,320 ล้านดอลลาร์สหรัฐเทียบกับค่าเงินในปี ค.ศ. 2015 ) ก่อนจะถึงปี ค.ศ. 1946 [ 39 ] แม้จะสุดสิ้นสงครามแล้ว โปรเจ็กต์ทางการทหารก็ยังได้ดำเนินต่อไป งานวิจัยหลังสงครามที่รัฐบาลสนับสนุนรวมทั้ง ระบบป้องกันทางอากาศ ( Semi Automatic Ground Environment ) ระบบนำทางเพื่อขีปนาวุธ และ โครงการอะพอลโล ( ที่ส่งมนุษย์ขึ้นไปในอวกาศรวมทั้งดวงจันทร์ ) [ 54 ]

… สถาบันการศึกษาชนิดพิเศษที่อาจนิยามได้ว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีแก่นเป็นสาขาวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และศิลปศาสตร์ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีเป้าหมายจำกัด แต่ไม่จำกัดความกว้างขวางและความลึกซึ้งเพื่อจะเข้าถึงเป้าหมายเหล่านั้น— อธิการบดีเจมส์ คิลเลียน

กิจกรรมเหล่านี้มีอิทธิพลต่อสถาบันอย่างลึกซึ้ง รายงานปี ค.ศ. 1949 บันทึกความไม่มี “ การลดความเร็วของวิถีชีวิตที่สถาบัน ” แม้สถานการณ์บ้านเมืองจะกลับไปสู่สันติภาพแล้ว และกล่าวถึงอย่างอาลัยซึ่ง “ ความสงบเงียบของสถาบันที่มีในช่วงก่อนสงคราม ” แต่ก็ยอมรับถึงการสนับสนุนที่สำคัญจากงานวิจัยทางการทหาร ต่อการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาที่สำคัญขึ้น และต่อการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของบุคคลากรและอุปกรณ์อาคารเพื่ออำนวยความสะดวก [ 55 ] คณะการศึกษาได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า และนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาได้เพิ่มขึ้นเป็น 5 เท่า ในสมัยของ ศ.คาร์ล คอมป์ตัน ผู้เป็นอธิการบดี ( president ) ในระหว่างปี ค.ศ. 1930-1948 ของเจมส์ คิลเลียน ผู้เป็นอธิการบดี ( president ) ในปี ค.ศ. 1948-1957 และของจูเลียส สแตร็ทตัน ผู้เป็นอธิการบดี ( chancellor of the exchequer ) ในปี ค.ศ. 1952-1957 ผู้ได้เปลี่ยนแปลงความเป็นไปในมหาวิทยาลัยด้วยยุทธวิธีสร้างสถาบัน เมื่อถึงคริสต์ทศวรรษ 1950 MIT ไม่ได้รับเพียงการสนับสนุนจากกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้ทำงานร่วมกันมาแล้วกว่า 3 ทศวรรษแค่กลุ่มเดียวอีกต่อไป แต่ได้สร้างความสัมพันธ์ใหม่ ๆ กับผู้มีอุปการะ องค์กรการกุศล และองค์กรรัฐบาลกลางอื่น ๆ [ 56 ] ในปลายคริสต์ทศวรรษ 1960 และต้นทศวรรษ 1970 ทั้งนักศึกษาและบุคคลากรในสถาบันได้ทำการประท้วงทั้ง สงครามเวียดนาม ทั้งงานวิจัยของ MIT เกี่ยวกับการทหาร [ 57 ] [ 58 ] องค์กรสหภาพนักวิทยาศาสตร์ผู้ห่วงใย ( Union of Concerned Scientists ) ได้รับการจัดตั้งขึ้นในวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 1969 ในการประชุมระหว่างบุคคลากรสถาบันและนักศึกษา ที่ต้องการเปลี่ยนแนวทางงานวิจัยที่เน้นการทหารไปยังปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมแทน [ 59 ] ในที่สุด MIT ก็แยกออกจากแล็บชาลส์สตาร์กเดรปเปอร์ ( ที่ทำงานวิจัยทางการทหาร ) และย้ายงานวิจัยลับทางทหารทั้งหมดจากมหาวิทยาลัยไปที่แล็บลิงคอล์นในปี ค.ศ. 1973 เพื่อตอบสนองต่อประเด็นปัญหาของการประท้วง [ 60 ] [ 61 ] ทั้งหมู่นักศึกษา หมู่บุคคลากร และหมู่ผู้บริหาร โดยเปรียบเทียบกับมหาวิทยาลัยอื่นแล้ว ไม่ได้แบ่งออกเป็นพรรคเป็นหมู่ ในช่วงเวลาที่เป็นสมัยสับสนอลหม่านในมหาวิทยาลัยหลายแห่งอื่น ๆ [ 57 ] อธิการบดีจอห์นสันได้รับเกียรติว่า ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการนำสถาบันไปสู่ “ ความเข้มแข็งสามัคคีที่ดีขึ้น ” หลังจากได้ผ่านเหตุการณ์วุ่นวายเหล่านี้ไปแล้ว [ c ]
MIT ได้ช่วยสร้างความก้าวหน้าให้แก่ยุคดิจิตัล คือ นอกจากจะพัฒนาเทคโนโลยีนำสมัยของ คอมพิวเตอร์ และ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ แล้ว [ 63 ] [ 64 ] ทั้งนักศึกษา บุคคลากร และคณะอาจารย์ที่โปรเจ็กต์แม็ค ( Project MAC ), ที่แล็บ ปัญญาประดิษฐ์ ( Artificial Intelligence Laboratory ) และที่สโมสรรถไฟจำลอง ( Tech Model Railroad Club ) ได้เขียนโปรแกรมเกมคอมพิวเตอร์ที่เล่นโต้ตอบได้เป็นรุ่นแรก ๆ เช่น Spacewar! และได้เริ่มต้นใช้ศัพท์ สแลง และเริ่มต้นวัฒนธรรมประเพณีของ นักเลงคอมพิวเตอร์ ( hack ) ที่ยังเป็นไปอยู่จนถึงทุกวันนี้อีกด้วย [ 65 ] องค์กรสำคัญเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์หลายองค์กรมีจุดเริ่มต้นที่ MIT ตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1980 เช่น
MIT ได้รับเลือกให้เป็น sea-grant college ในปี ค.ศ. 1976 เพื่อสนับสนุนโปรแกรมของสถาบันในสาขา สมุทรศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ทางทะเลสาขาต่าง ๆ ( marine sciences ) และเป็น space-grant college ในปี ค.ศ. 1989 เพื่อสนับสนุนโปรแกรมของสถาบันในสาขาอากาศยานศาสตร์ ( aeronautics ) และอวกาศยานศาสตร์ ( astronautics ) [ 70 ] [ 71 ] แม้ว่าเงินสนับสนุนจากรัฐจะลดน้อยถอยลงไปเรื่อย ๆ ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา MIT ได้รณรงค์รวบรวมเงินบริจาคหลายครั้ง ที่ได้ใช้ขยายวิทยาเขตออกไปอีก คือ

  • หอพักนักศึกษาและอาคารกีฬาใหม่ ๆ ในวิทยาลัยเขตทิศตะวันตก
  • ศูนย์การศึกษาการบริหารตั้ง (Tang Center for Management Education)
  • อาคารหลายอาคารทางมุมด้านตะวันออกเฉียงเหนือของวิทยาเขตเพื่อสนับสนุนงานวิจัยในสาขาชีววิทยา (ในอาคาร Koch Biology Building), วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสมองและประชาน (brain and cognitive sciences ในกลุ่มอาคาร Brain and Cognitive Sciences complex), จีโนมิกส์ (ดำเนินงานโดยสถาบันบรอด), เทคโนโลยีชีวภาพ (ดำเนินงานโดยสถาบันไวท์เฮด), และงานวิจัยเกี่ยวกับมะเร็ง (ดำเนินงานโดยสถาบัน David H. Koch Institute for Integrative Cancer Research)
  • อาคารใหม่หลายอาคารบนถนนวาซซาร์ (Vassar) รวมทั้งศูนย์สตาตา (Stata Center)[72]

การก่อสร้างในวิทยาเขตในคริสต์ทศวรรษ 2000 รวมทั้งการขยายมีเดียแล็บ, วิทยาเขตด้านทิศตะวันออกของโรงเรียนการบริหารสโลน, และที่อาศัยของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ [ 73 ] [ 74 ] ในปี ค.ศ. 2006 อธิการบดีหญิงฮ็อกฟิลด์จัดตั้งคณะกรรมการงานวิจัยเกี่ยวกับพลังงานเอ็มไอที ( MIT Energy Research Council ) เพื่อสืบสวนปัญหาข้ามสาขาวิชาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้พลังงานของโลก [ 75 ]
ในปี ค.ศ. 2001 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากขบวนการ โอเพนซอร์ซ และโอเพนแอกซ์เซสส์ [ 76 ] สถาบันได้เริ่มโครงการ “ โอเพ็นคอร์สแวร์ “ ( OpenCourseWare ตัวย่อ OCW ) ที่เปิดเล็กเช่อร์โน๊ต การบ้าน ( problem set ) ใบประมวลวิชา ( syllabuses ) และเล็กเช่อร์ จากชั้นวิชาต่าง ๆ โดยมาก ให้เข้าถึงได้ออนไลน์ฟรี [ 77 ] แม้ว่าค่าใช้จ่ายเพื่อการสนับสนุนโครงการนี้จะสูง [ 78 ] แต่โครงการ OCW ก็ขยายตัวออกไปอีกในปี ค.ศ. 2005 โดยเพิ่มมหาวิทยาลัยอื่น ๆ เข้าในกลุ่มคอนซอร์เทียมโอเพ็นคอร์สแวร์ ( OpenCourseWare Consortium ) ซึ่งในปัจจุบันรวมสถาบันวิชาการกว่า 250 สถาบัน โดยมีข้อมูลวิชาการในอย่างน้อย 6 ภาษา [ 79 ] ในปี ค.ศ. 2011 MIT ประกาศว่าจะเริ่มให้ใบรับรองอย่างเป็นทางการ ( แต่ไม่ได้ให้เครดิตเพื่อปริญญา ) สำหรับนักศึกษาออนไลน์ที่ผ่านวิชาในโปรแกรม “ MITx ” โดยเสียค่าใช้จ่ายพอประมาณ [ 80 ] ซอฟต์แวร์แพลตฟอร์ม edX ที่ใช้ในโปรแกรม MITx พัฒนาขึ้นในตอนแรกโดยร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และคล้ายคลึงกับโครงการ Harvardx ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โดยเปิดให้ใช้ภายใต้สัญญาลิขสิทธิ์แบบ โอเพนซอร์ซ และมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ก็ได้เข้ามาร่วมในโครงการนี้และได้เพิ่มข้อมูลวิชาของตน ๆ เข้าในโครงการแล้ว [ 81 ]
3 วันหลังจาก เหตุระเบิดในบอสตันมาราธอน พ.ศ. 2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจของสถาบัน ชอน คอลลีเออร์ ถูกยิงตายโดยผู้ต้องสงสัย ( คือ Dzhokhar และ Tamerlan Tsarnaev ) ซึ่งจุดชนวนการล่าอาชญากรอย่างดุเดือด ที่ส่งผลให้ปิดวิทยาเขตและเขตมหานคร บอสตัน ตลอดวัน [ 82 ] อีกอาทิตย์หนึ่งหลังจากนั้น ได้มีคนมางานศพของเจ้าหน้าที่ตำรวจคอลลีเออร์ ที่ทำในที่แจ้ง กว่า 10,000 คน โดยมีกลุ่มชนชาว MIT เป็นเจ้าภาพ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายรัฐจากเขต นิวอิงแลนด์ และ ประเทศแคนาดา มาร่วมพิธีด้วยเป็นจำนวนหลายพัน [ 83 ] [ 84 ] [ 85 ] ในวันที่ 25 พฤศจิกายน ค.ศ. 2013 MIT ประกาศการจัดตั้งเหรียญคอลลีเออร์ ( Collier Medal ) ที่จะให้เป็นประจำปีต่อ “ บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีคุณสมบัติ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคอลลีเออร์แสดงเป็นตัวอย่างในฐานะเป็นสมาชิกของชุมชน MIT และในด้านอื่น ๆ ในชีวิตของเขา ” คำประกาศนั้นยังกล่าวต่อไปอีกว่า
ศูนย์กลางและส่วนด้านทิศตะวันออกของวิทยาเขต มุมมองจากอากาศเหนือถนนแมสซาชูเซตส์และแม่น้ำชาลส์ ตรงกลางเป็นส่วนของอาคารที่เรียกว่า มหาโดม ( the Great Dome ) ที่มองเห็นวิวของสนามคิลเลียน โดยที่มีจัตุรัสเค็นดัลล์ ( Kendall Square ) เป็นพื้นเพ อาคาร 10 และส่วนของอาคารที่เรียกว่า มหาโดม ( the Great Dome ) ที่มองเห็นวิวของสนามคิลเลียน วิทยาเขตขนาด 425 ไร่ของ MIT กว้างประมาณ 1.6 กิโลเมตร อยู่ทางด้านทิศเหนือของลุ่มแม่น้ำชาลส์ในเมือง เคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ [ 5 ] มีถนนแมสซาชูเซตส์ ( Massachusetts Avenue, หรือรู้จักกันว่า Mass Ave ) แบ่งครึ่งวิทยาเขตโดยประมาณ โดยมีหอพักนักศึกษาและอาคารที่สนับสนุนความเป็นอยู่ของนักศึกษาทางทิศตะวันตก และอาคารการศึกษาทางทิศตะวันออก มีสะพานที่อยู่ใกล้สถาบันมากที่สุดชื่อว่า สะพานฮาร์วาร์ด ซึ่งมีชื่อเสียงในการมีเครื่องหมายแสดงความยาวที่ไม่ใช่หน่วยมาตรฐาน คือมีหน่วยเป็นสมูท ( smoot ) ตามความสูงของนักศึกษาโอลิเวอร์ สมูท ( รุ่นปี ค.ศ. 1962, เป็นอดีตประธานองค์กรมาตรฐาน ANSI ) [ 89 ] [ 90 ] สถานีรถไฟ Kendall/MIT Station ที่ รถไฟใต้ดินบอสตัน สายสีแดง ของ การคมนาคมอ่าวแมสซาชูเซตส์ ( MBTA ) วิ่งผ่าน อยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือสุดเขตของมหาวิทยาลัยในจัตุรัสเค็นดัลล์ ( Kendall Square ) บริเวณรอบ ๆ วิทยาเขตซึ่งเป็นส่วนของเมือง เคมบริดจ์ มีทั้งบริษัทไฮเถ็กที่อยู่ในอาคารนำสมัย และในอาคารอุตสาหกรรมเก่าที่ได้รับการบูรณะ มีทั้งบริเวณที่อยู่อาศัยของชุมชนที่มีฐานะทางสังคมและเศรษฐกิจที่ต่าง ๆ กัน [ 91 ] [ 92 ] อาคารแต่ละอาคารของสถาบันใช้ตัวเลขเป็นเครื่องกำหนด ( และอาจจะนำด้วย W, N, E, หรือ NW ตามทิศ ) แต่ก็มีชื่อด้วยเช่นกัน โดยทั่ว ๆ ไปอาคารศึกษาและอาคารสำนักงานเรียกโดยใช้ตัวเลข แต่หอพักนักศึกษาต่าง ๆ เรียกโดยชื่อ ตัวเลขที่ใช้กำหนดจัดตามลำดับการสร้างอาคาร ( โดยประมาณ ) และตามตำแหน่ง ( เช่นทิศเหนือ ทิศตะวันตก และทิศตะวันออก ) ที่สัมพันธ์กับอาคารชุดแรก ๆ ที่เรียกว่า “ อาคาร ( อธิการบดี ) แม็คคลอริน ” [ 93 ] อาคารต่าง ๆ เชื่อมต่อกันทั้งเหนือดินทั้งใต้ดิน ผ่านเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินที่เชื่อมต่อกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันภูมิอากาศของเมืองเคมบริดจ์แล้ว ยังเป็นที่ทำการของนักสำรวจหลังคาและอุโมงค์ ( ที่ปกติไม่ได้รับอนุญาต ) อีกด้วย [ 94 ] [ 95 ] เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ที่อยู่ในวิทยาเขตของสถาบัน [ 96 ] เป็นเตาปฏิกรณ์ที่มีกำลังมากที่สุดเครื่องหนึ่งในบรรดาเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของมหาวิทยาลัยในสหรัฐ และความเด่นชัดของอาคารจำกัดความเสียหาย ( containment build ) ที่อาจเกิดจากเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ในเขตที่มีประชากรหนาแน่น ก่อให้เกิดความคิดเห็นไปต่าง ๆ กัน [ 97 ] แต่สถาบันก็ยังยืนยันว่า อาคารนั้นมีการรักษาความปลอดภัยดีแล้ว [ 98 ] ในปี ค.ศ. 1999 บิล เกตส์ ได้บริจาคเงินจำนวน 20 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างแล็บคอมพิวเตอร์โดยมีชื่อว่า “ อาคาร์วิลเลียม เอช เกตส์ ( William H. Gates Building ) ” และออกแบบโดย สถาปนิก แฟรงก์ เกห์รี แม้ว่าบริษัท ไมโครซอฟท์ ( ที่เกตส์เป็นผู้ก่อตั้ง ) จะได้บริจาคเงินสนับสนุนสถาบันมาก่อนแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เกตส์ได้บริจาคทรัพย์ส่วนบุคคล [ 99 ] อุปกรณ์เครื่องมืออย่างอื่นที่น่าสนใจในวิทยาเขตรวมทั้ง อุโมงค์ลม และอ่างเรือจำลองเพื่อทดสอบแบบเรือและสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ในทะเล [ 100 ] [ 101 ] มีเครือข่าย แลนไร้สาย ของสถาบันที่ทำเสร็จในฤดูใบไม้ตกในปี ค.ศ. 2005 มี แอคเซสพอยต์ไร้สาย เกือบ 3,000 จุดครอบคลุมเนื้อที่ 546 ไร่ [ 102 ] ในปี ค.ศ. 2001 สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐ ฟ้อง MIT ในศาล เพราะทำผิดกฎหมายน้ำสะอาด ( Clean Water Act ) และกฎหมายอากาศสะอาด ( Clean Air Act ) มีสาเหตุมาจากวิธีการเก็บและทิ้งสิ่งปฏิกูลอันตราย [ 103 ] MIT ได้ระงับคดีโดยเสียค่าปรับ 155,000 ดอลลาร์สหรัฐและได้ริเริ่มโครงการเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม 3 โครงการ [ 104 ] คือ
ในระหว่างปี ค.ศ. 2009-2011 เจ้าหน้าที่ตำรวจของสถาบันพร้อมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งของพื้นที่และของ รัฐแมสซาชูเซตส์ ได้สืบสวนการแจ้งความเกี่ยวกับการทำอนาจาร 12 กรณี การชิงทรัพย์ 6 กรณี การทำร้ายร่างกายจนได้รับอันตรายสาหัส 3 กรณี การชิงทรัพย์โดยบุกเข้าไปในเคหสถาน 164 กรณี การวางเพลิง 1 กรณี และการขโมย ยานยนต์ 4 กรณี ในวิทยาเขต ซึ่งมีผลต่อชุมชนประมาณ 22,000 คนรวมทั้งนักศึกษาทั้งบุคคลากรของสถาบัน [ 106 ]
โรงเรียน สถาปัตยกรรม ซึ่งปัจจุบันคือโรงเรียนสถาปัตยกรรมและการวางแผน ( School of Architecture and Planning ) เป็นโรงเรียนสถาปัตยกรรมแห่งแรกในสหรัฐ [ 107 ] และสถาบันเองก็มีประวัติในการสร้างอาคารมีสถาปัตยกรรมทันสมัย [ 108 ] [ 109 ] กลุ่มอาคารแรกสุดในวิทยาเขตเมืองเคมบริดจ์ที่สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1916 ที่บางครั้งเรียกว่า “ อาคารแม็คคลอริน ” ( Maclaurin buildings ) ตามชื่อของอธิการบดีริชาร์ด แม็คคลอริน ผู้ดูแลการก่อสร้าง เป็นกลุ่มอาคารออกแบบโดยวิลเลียม บอสเวอร์ธ อาคารน่าเกรงขามเหล่านี้สร้างด้วย คอนกรีตเสริมแรง เป็นอาคารที่ไม่ใช่อาคารอุตสาหกรรมแห่งแรกในสหรัฐที่สร้างโดยวิธีนี้ [ 110 ] การออกแบบของบอสเวิร์ธได้รับอิทธิพลจากขบวนการสร้างเมืองให้สวย ( City Beautiful Movement ) ที่เป็นไปในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1900 [ 110 ] และสร้างเน้นอาคารที่เรียกว่า “ มหาโดม ” ( the Great Dome ) โดยสร้างคล้ายกับ วิหารแพนธีอัน ใน กรุงโรม เป็นที่อยู่ของห้องสมุดวิศวกรรมศาสตร์บาร์กเกอร์ ( Barker Engineering Library ) ที่มองลงมาเห็นสนามคิลเลียน ( Killian Court ) ซึ่งเป็นที่ที่จัดพิธีรับปริญญาทุกปี รอบ ๆ อาคารซึ่งฉาบด้วยหินปูนรอบ ๆ สนามคิลเลียน มีชื่อสลักของนักวิทยาศาสตร์และนักปราชญ์คนสำคัญ [ d ] ส่วนห้องโถงใหญ่ที่น่าเกรงขามในอาคาร 7 ที่อยู่ติดกับถนนแมสซาชูเซตส์ ถือกันว่า เป็นทางเข้าหลักของระเบียงไม่มีที่สิ้นสุด ( Infinite Corridor, ซึ่งเชื่อมต่ออาคาร 7, 3, 10, 4 และ 8 ) และส่วนที่เหลือของวิทยาเขต [ 92 ] หอพักนักศึกษา บ้านเบเกอร์ ( Baker House ค.ศ. 1947 ) ที่ออกแบบโดย อัลวา อัลโต, โบสถ์เอ็มไอที ( MIT Chapel ) และหอประชุมเครสก์ ( Kresge Auditorium ค.ศ. 1955 ) ที่ออกแบบโดย Eero Saarinen, และอาคารกรีน ( Green Building ) อาคารเดรย์ฟัส ( Dreyfus Building ) และอาคารไวส์เนอร์ ( Wiesner Building เป็นที่อยู่ของมีเดียแล็บ ) ที่ออกแบบโดย ไอ. เอ็ม. เพ ( ศิษย์เก่า ) ทั้งหมดล้วนแต่เป็นตัวอย่างที่สำคัญของ สถาปัตยกรรมสมัยใหม่ หลังสงครามโลก [ 113 ] [ 114 ] [ 115 ] อาคารใหม่ ๆ เช่น ศูนย์สตาตา ( ค.ศ. 2004 ) ที่ออกแบบโดย แฟรงก์ เกห์รี, หอพักนักศึกษาซิมมอนส์ ( Simmons Hall ค.ศ. 2002 ) ที่ออกแบบโดย Steven Holl, อาคาร 46 ( ค.ศ. 2005 ) ที่ออกแบบโดย Charles Correa, และส่วนต่อเติมของอาคารมีเดียแล็บ ( ค.ศ. 2009 ) ที่ออกแบบ Fumihiko Maki ล้วนแต่เป็นสถาปัตยกรรมคลาสสิกที่เด่นในเขตมหานครบอสตัน และเป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมวิทยาเขตร่วมสมัยออกแบบโดยดาราสถาปนิก ( starchitect ) [ 108 ] [ 116 ] แต่ว่า อาคารเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะได้รับความนิยมเสมอไป [ 117 ] [ 118 ] ในปี ค.ศ. 2010 บริษัทที่พิมพ์หนังสือแนะนำมหาวิทยาลัย The Princeton Review รวม MIT เข้าในกลุ่มมหาวิทยาลัย 20 แห่ง ที่มีวิทยาเขตที่ “ เล็ก ๆ, ไม่น่าดู, หรือไม่ก็ทั้งสองอย่าง ” [ 119 ]
หอพักนักศึกษาซิมมอนส์ ( Simmons Hall ) ที่สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 2002 สถาบันให้ประกันว่านักศึกษาระดับปริญญาตรีจะได้ที่อยู่เป็นเวลา 4 ปี ในหอพักนักศึกษาปริญญาตรีที่มีอยู่ 12 แห่ง [ 120 ] ผู้ที่อยู่ในหอพักนักศึกษามีโอกาสที่จะได้รับความช่วยเหลือและคำแนะนำจากนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา ผู้ให้คำปรึกษา และอาจารย์หัวหน้าหอพัก ที่ล้วนแต่อาศัยอยู่ที่หอพัก [ 121 ] เพราะว่าการแจกหอพักเป็นไปตามความชอบใจของนักศึกษาเองโดยส่วนหนึ่ง จึงมีกลุ่มนักเรียนมากมายหลายแบบที่รวมกลุ่มกันที่หอพักต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น หนังสือ คู่มือวงในในการเลือกมหาวิทยาลัย ค.ศ. 2010 เขียนโดยคณะทำงานของหนังสือพิมพ์ เยลเดลินิวส์ ของ มหาวิทยาลัยเยล กล่าวไว้ว่า
นอกจากหอพักนักศึกษาระดับปริญญาตรีแล้ว ก็ยังมีที่พักสำหรับนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาด้วย คือ มีหอพักโสด 5 หอพัก และมีอาคารชุด 2 อาคารสำหรับนักศึกษาที่มีครอบครัว [ 123 ] นักศึกษามีทางเลือกเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยอื่นที่สืบเนื่องกับสถาบันแต่สถาบันไม่ได้เป็นผู้ดำเนินงาน คือ มี brotherhood [ einsteinium ], sorority, และกลุ่มที่พักอาศัยอิสระ ( mugwump living group ) รวม ๆ กันเรียกว่า FSILGs ให้เลือกกว่า 36 แห่ง [ 124 ] ในปี ค.ศ. 2015 นักศึกษาระดับปริญญาตรีทั้งหมด 87 % อาศัยในที่พักอาศัยตามที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด โดย 50 % ของนักศึกษาชายอยู่ใน brotherhood และ 32 % ของนักศึกษาหญิงอยู่ใน sorority [ 125 ] ที่อยู่ดำเนินการโดย FSILGs นั้น โดยมากจะอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำชาลส์ในย่านแบล็กเบย์ของเมือง บอสตัน ที่เป็นแหล่งกำเนิดของสถาบัน แต่ก็ยังมี brotherhood กลุ่มหนึ่งที่วิทยาเขตทิศตะวันตกด้วย [ 126 ] หลังจากการเสียชีวิตเพราะการดื่มสุรา ของนักศึกษาสก็อตต์ ครูเกอร์ ในปี ค.ศ. 1997 ผู้เป็นสมาชิกใหม่ของ Phi Gamma Delta brotherhood สถาบันได้เริ่มบังคับให้นักศึกษาปี 1 ทุกคน ให้อยู่ที่หอพักนักศึกษาของสถาบันเริ่มต้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 2002 [ 127 ] เหตุของความล่าช้าของกฎบังคับใหม่ก็เพราะว่า ในปีก่อน ๆ นักศึกษาปีหนึ่งได้อาศัยอยู่ที่ FSILGs เป็นจำนวนกว่า 300 คน มหาวิทยาลัยจึงไม่ได้เริ่มใช้นโยบายนี้จนกระทั่งเมื่อหอพักนักศึกษาซิมมอนส์ที่สร้างใหม่เปิดใช้ในปี ค.ศ. 2002 [ 128 ]
ล็อบบี้ 7 ( มีหมายเลขที่อยู่เป็น 77 ถ. แมสซาชูเซตส์ ) ถือกันว่าเป็นทางเข้าหลักของวิทยาเขต MIT จัดตั้งขึ้นเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรมี MIT Corporation เป็นเจ้าของและบริหารโดยคณะทรัสตี ( board of trustees ) คณะทรัสตีปัจจุบันมีสมาชิก 43 คนที่ได้รับการเลือกตั้งมีวาระ 5 ปี [ 129 ] มีสมาชิกตลอดชีวิต 25 คนที่สามารถโหวตได้จนถึงวันเกิดที่ 75 [ 130 ] มีเจ้าหน้าที่สถาบัน 3 คนที่ได้จากการรับเลือก ( คือ อธิการบดี เหรัญญิก และเลขาธิการ ) [ 131 ] และมีสมาชิกโดยตำแหน่ง 4 คน คือประธานสมาคมศิษย์เก่า ผู้ว่าการรัฐแมสซาชูเซตส์ เลขาธิการการศึกษารัฐแมสซาชูเซตส์ และหัวหน้าผู้พิพากษาของศาลสูงสุดของรัฐแมสซาชูเซตส์ ( Massachusetts Supreme Judicial Court ) [ 132 ] [ 133 ] ประธานคณะทรัสตีคนปัจจุบันคือ โรเบิรต์ มิลลาร์ด ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะผู้จัดตั้งบริษัท L-3 Communications [ 134 ] [ 135 ] คณะทรัสตีมีอำนาจอนุมัติเงินงบประมาณ โปรแกรมการศึกษา ปริญญาใหม่ และการแต่งตั้งอาจารย์ และเลือกอธิการบดีให้เป็นประธานบริหารสถาบันและเป็นประธานของคณะการศึกษา [ 92 ] [ 136 ] กองทุนสั่งสมและทรัพย์สินทางการเงินอื่น ๆ ของสถาบัน มีการบริหารโดยบริษัทย่อยคือ บริษัทบริหารการลงทุนเอ็มไอที ( MIT Investment Management Company ) [ 137 ] ในปี ค.ศ. 2015 กองทุนสั่งสมของสถาบันมีค่าประมาณ 13,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ [ 2 ] เป็นกองทุนที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 2014 [ 138 ] MIT แบ่งออกเป็น 5 โรงเรียน ( school ) และ 1 วิทยาลัย ( college ) คือโรงเรียนวิทยาศาสตร์ โรงเรียนวิศวกรรมศาสตร์ โรงเรียนสถาปัตยกรรมและการวางแผน โรงเรียนการบริหารสโลน โรงเรียนมนุษยศาสคร์ ศิลปศาสตร์ และสังคมศาสตร์ และวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสุขภาพวิทะเกอร์ แต่สถาบันไม่มีโรงเรียนเกี่ยวกับกฎหมายหรือการแพทย์ [ 139 ] [ f ] แม้ว่าคณะอาจารย์ต่าง ๆ จะมีอิทธิพลในเรื่องหลักสูตรการสอน งานวิจัย วิถีชีวิตของนักศึกษา และการบริหารสถาบันด้านอื่น ๆ [ 141 ] แต่ประธานของคณะศึกษากว่า 32 คณะก็ยังอยู่ใต้บังคับบัญชาของ คณบดี ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของ Provost ( ซึ่งดำเนินงานเป็นรองอธิการบดี ) ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของ อธิการบดี อีกทีหนึ่ง [ 142 ] อธิการบดีคนปัจจุบันคือ ศ.แอ็ล ราฟาเอล รีฟ ผู้เคยทำหน้าที่เป็น provost ของอธิการบดีซูซาน ฮ็อกฟิลด์ ที่เป็นอธิการบดีหญิงคนแรกของสถาบัน [ 143 ] [ 144 ]
MIT เป็นมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ที่เน้นงานวิจัย มีนักศึกษาส่วนมากในระดับบัณฑิตศึกษาและในโปรแกรมระดับอาชีพ ( ที่สูงกว่าระดับปริญญาตรี ) อื่น ๆ และมีนักศึกษาจำนวนมากอาศัยอยู่ในมหาวิทยาลัย [ 145 ] มหาวิทยาลัยได้รับการรับรองวิทยฐานะจากสมาคมโรงเรียนและวิทยาลัยเขตนิวอิงแลนด์ ( New England Association of Schools and Colleges ) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1929 [ 146 ] [ 147 ] MIT มีปฏิทินการศึกษาแบบ 4-1-4 เดือน คือ
นักศึกษาเรียกทั้งวิชาเอก ( major ) และชั้นวิชา ( class ) โดยใช้ตัวเลขหรือตัวย่อเท่านั้น [ g ] ตามลำดับการก่อตั้งของคณะนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น คณะ วิศวกรรมโยธา และสิ่งแวดล้อมเรียกว่า Course 1, และคณะภาษาและปรัชญาเรียกว่า Course 24 [ 150 ] ส่วนนักศึกษาที่มีวิชาเอกเป็น วิศวกรรมไฟฟ้า และ วิทยาการคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นคณะที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เรียกตัวเองรวม ๆ กันว่า Course 6 ( เช่น What course are you ? I ‘m a Course 6. ) นักศึกษาใช้ตัวเลขของคณะศึกษา รวมกับตัวเลขที่กำหนดโดยคณะศึกษาอีกตัวหนึ่งเพื่อเรียกวิชาต่าง ๆ เช่นวิชา กลศาสตร์ดั้งเดิม ที่ใช้ แคลคูลัส เรียกว่า 8.01 [ 151 ] [ h ]
โปรแกรม 4 ปีในระดับปริญญาตรี จะเป็นการศึกษาที่สมดุลระหว่างวิชาเอกและวิชาต่าง ๆ ทั้งใน วิทยาศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ศิลปศาสตร์ และ สังคมศาสตร์ เป็นโปรแกรมที่เข้าได้ยาก [ 145 ] รับนักศึกษาเพียงแค่ 7.9 % ของนักศึกษารุ่น ค.ศ. 2018 ( ปีรับ 2014 ) [ 13 ] และรับนักศึกษาที่ย้ายมาจากมหาวิทยาลัยอื่นน้อยมาก [ 145 ] MIT มอบปริญญาตรีตามวิชาเอก 44 วิชาภายในโรงเรียน 5 โรงเรียน [ 154 ] เช่น ในปี 2010-2011 โรงเรียนมอบปริญญาวิทยาศาสตร์บัณฑิต ( ตัวย่อว่า SB มาจากคำ ภาษาละติน ว่า Scientiæ Baccalaureus ) 1,161 ปริญญา ซึ่งเป็นปริญญาประเภทเดียวที่ให้ในระดับปริญญาตรี [ 155 ] [ 156 ] ในเทอม ฤดูใบไม้ร่วง ในปี ค.ศ. 2011 โดยนับนักศึกษาที่ได้เลือกวิชาเอกแล้ว โรงเรียน วิศวกรรมศาสตร์ เป็นโรงเรียนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีนักศึกษาถึง 62.7 % ในโปรแกรมปริญญา 19 โปรแกรม ตามมาด้วยโรงเรียน วิทยาศาสตร์ ( 28.5 % ), โรงเรียน มนุษยศาสตร์ ศิลปศาสตร์ และ สังคมศาสตร์ ( 3.7 % ), โรงเรียนการบริหารสโลน ( 3.3 % ), และโรงเรียน สถาปัตยกรรม และการวางแผน ( 1.8 % ) วิชาเอกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในระดับปริญญาตรีก็คือ วิศวกรรมไฟฟ้า และ วิทยาการคอมพิวเตอร์ ( Course 6-2 ), วิทยาการ และ วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ( Course 6-3 ), วิศวกรรมเครื่องกล ( Course 2 ), ฟิสิกส์ ( Course 8 ), และ คณิตศาสตร์ ( Course 18 ) [ 152 ]
นักศึกษาทุกคนต้องจบหลักสูตรหลักที่เรียกว่า วิชาบังคับทั่วไปของสถาบัน ( General Institute Requirements ) [ 157 ] ส่วนวิชาบังคับวิทยาศาสตร์ ( Science Requirement ) ซึ่งมักจะเรียนในปี 1 เพราะเป็นวิชาที่ต้องเรียนก่อนวิชาอื่น ๆ ที่เป็นวิชาเอกของ วิทยาศาสตร์ และ วิศวกรรมศาสตร์ สาขาต่าง ๆ มีวิชา ฟิสิกส์ 2 ภาคการศึกษา, แคลคูลัส 2 ภาคการศึกษา, เคมี 1 ภาคการศึกษา, และ ชีววิทยา 1 ภาคการศึกษา และยังมีวิชาแล็บบังคับ ( Laboratory Requirement ) ซึ่งแต่ละวิชาเอกจะมีแล็บของตน ๆ ส่วนวิชาบังคับใน มนุษยศาสตร์ ศิลปศาสตร์ และ สังคมศาสตร์ ( HASS Requirement ) กำหนดให้เรียน 8 วิชา ซึ่งต้องเลือก 1 วิชาจากแต่ละสาขาใน 3 สาขา ( มีมนุษยศาสตร์เป็นต้น ) และกลุ่มวิชาอย่างหนึ่งที่เลือกเป็น “ วิชาเอก ” ( สำหรับโรงเรียน HASS ) และในส่วนของวิชาบังคับการสื่อสาร ( Communication Requirement ) นักศึกษาต้องเลือกวิชา HASS 2 วิชา และอีก 2 วิชาที่อยู่ในกลุ่มวิชาเอก โดยเป็นวิชาที่ “ มีการสื่อสารในระดับเข้ม ” [ 158 ] ซึ่งมี “ การสอนและภาคปฏิบัติในการนำเสนอปากเปล่า ( ต่อหน้าชั้น ) ” [ 159 ] นอกจากนั้นแล้ว นักศึกษายังต้องผ่านการสอบ ว่ายน้ำ และผู้ที่ไม่ใช่นักกีฬาของสถาบันต้องลง วิชาพละ 4 กึ่งภาคการศึกษา ( คือแต่ละชั้นมีระยะเวลากึ่งภาคการศึกษา ดังนั้น จึงสามารถจบวิชาพละทั้งหมดได้ภายใน 2 ภาคการศึกษา ) [ 157 ] วิชาโดยมากมีทั้งเล็กเช่อร์ การบรรยายในห้องเรียนโดยศาสตราจารย์ผู้ช่วยหรือโดยนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา การบ้าน ( trouble set ) ประจำอาทิตย์ และการสอบ ถึงแม้ว่านักศึกษามักจะเปรียบเทียบการศึกษาที่ยากและรวดเร็วของ MIT เหมือนกับ “ พยายามดื่มน้ำจากท่อดับเพลิง ” [ one ] [ 161 ] อัตราการลงทะเบียนเรียนของนักศึกษาที่กลับมาเรียนในปี 2 ก็คล้ายคลึงกับมหาวิทยาลัยวิจัยระดับชาติอื่น ๆ [ 162 ] ระบบการให้เกรดแบบ “ ผ่าน หรือ ไม่มีประวัติ ” ช่วยลดความกดดันต่อนักศึกษาปี 1 คือ แต่ละวิชาที่เรียนใน ฤดูใบไม้ร่วง ใบแสดงผลการศึกษาของนักศึกษาปี 1 จะแสดงเพียงแค่ว่า “ ผ่าน ” หรือไม่ก็จะไม่มีประวัติอะไรเลย ส่วนใน ฤดูใบไม้ผลิ จะแสดงเกรดเอ บี หรือซี ที่แสดงว่าผ่าน หรือไม่ก็จะไม่มีประวัติอะไรเลยเหมือนกัน [ 163 ] ( แต่ในปีก่อน ๆ การให้เกรดเป็นแบบ “ ผ่าน/ไม่มีประวัติ ” สำหรับปี 1 ทั้งปี แต่พึ่งเปลี่ยนในรุ่น ค.ศ. 2006 เพื่อป้องกันนักศึกษาปี 1 ฉวยโอกาสเรียนผ่านวิชาบังคับในส่วนวิชาเอก [ 164 ] ) นอกจากนั้นแล้ว นักศึกษาปี 1 ยังสามารถเลือกสมัครเข้าเรียนในระบบการศึกษาทางเลือกต่าง ๆ เช่น

  • กลุ่มการศึกษาทดลอง (Experimental Study Group) ซึ่งศึกษาวิชาการต่าง ๆ ผ่านชั้นเรียนย่อย ๆ ที่ให้อาจารย์กับนักศึกษามีโอกาสตอบโต้กันมากขึ้น (เทียบกับเล็กเช่อร์ในระบบการศึกษาปกติ), ผ่านชั้นที่ฝึกการแก้ปัญหา (สอนโดยผู้ช่วยอาจารย์ที่เป็นนักศึกษาปีที่สูงกว่า), และผ่านชั้นสัมมนา
  • กลุ่มการศึกษา concourse ซึ่งเน้นการศึกษาในระดับกว้าง เน้นความรู้เกี่ยวกับรากฐานพื้นเพของสาขาวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์
  • กลุ่มการศึกษา Terrascope ซึ่งเน้นการศึกษาที่อาศัยการแก้ปัญหาข้ามสาขาวิชาโดยองค์รวม เพื่อแก้ปัญหาที่ซับซ้อนเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และความดำรงอยู่ได้ของสิ่งแวดล้อมของโลก[163]

ในปี ค.ศ. 1969 ศ.ญ. มากาเร็ต แม็ควิการ์ ก่อตั้ง “ โปรแกรมเพื่อโอกาสทำงานวิจัยสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี ” ( Undergraduate Research Opportunities Program ) เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาชั้นปริญญาตรีทำงานร่วมกับอาจารย์หรือนักวิจัยโดยตรง นักศึกษาเข้าร่วมกับหรือเริ่มโปรเจ็กต์ ( ที่นิยมเรียกว่า “ UROP ยูร็อพ ” ) เพื่อหน่วยกิต เพื่อค่าจ้างตอบแทน หรือโดยอาสาสมัคร สมัครได้โดยดูรายการประกาศบน เว็บไซต์ ยูร็อพ หรือติดต่อกับอาจารย์โดยตรง [ 165 ] นักศึกษาโดยมากเข้าร่วมกับโปรแกรมนี้ [ 166 ] [ 167 ] และบ่อยครั้งตีพิมพ์ผลงานวิจัย หรือจดทะเบียน สิทธิบัตร หรือจัดตั้งบริษัทใหม่ สืบเนื่องกับประสบการณ์ที่ได้จากยูร็อพ [ 168 ] [ 169 ] ในปี ค.ศ. 1970 เมื่อยังเป็นดีนประชาสัมพันธ์ที่สถาบัน เบ็นสัน สไนเดอร์พิมพ์หนังสือ The Hidden Curriculum (หลักสูตรแฝง) ยกประเด็นว่า การศึกษาจริง ๆ ที่สถาบันไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่ากับการประพฤติตามกฎระเบียบที่ไม่มีลายลักษณ์อักษร และว่า การจบการศึกษาโดยมีเกรดดีมักจะเป็นผลจากการเล่นเกมกับระบบมากกว่าการได้การศึกษาที่ดีจริง ๆ ตามความคิดของสไนเดอร์ นักศึกษาที่ประสบผลสำเร็จ ( คือเรียนได้เกรดดี ) เป็นผู้ที่สามารถแยกแยะได้ว่า กฎบังคับอะไรไม่ต้องสนใจ เพื่อที่จะมีเวลาทำการเกี่ยวกับกฎที่ไม่มีลายลักษณ์อักษร ตัวอย่างเช่น นักศึกษาหลายกลุ่มได้รวบรวม “ คู่มือวิชา ( course bible ) ” ซึ่งรวบรวมคำถามที่ให้ในการบ้าน ( problem-set ) และในข้อสอบรวมทั้งคำตอบ สำหรับให้นักศึกษารุ่นหลัง ๆ ใช้เป็นคู่มือ สไนเดอร์เสนอว่า การเล่นเกมแบบนี้ ขัดขวางการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และมีผลเป็นความรู้สึกไม่ปลื้มใจและไม่สบายใจในกลุ่มนักศึกษา [ 170 ] [ 171 ]
โปรแกรมระดับบัณฑิตศึกษาของ MIT เป็นไปร่วมกันในระดับสูงกับโปรแกรมระดับปริญญาตรี นักศึกษาที่มีคุณสมบัติบางพวกจะลงทะเบียนศึกษาในวิชาของทั้งสองระดับ MIT มีโปรแกรมระดับดุษฎีบัณฑิตที่ให้ปริญญาในสาขา มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ คณิตศาสตร์ และปริญญาระดับอาชีพ ( professional degree ) อื่น ๆ [ 145 ] คือ มีโปรแกรมระดับบัณฑิตศึกษาที่ให้ปริญญาเช่นปริญญา วิทยาศาสตร์ มหาบัณฑิต ( MS ), ปริญญา วิศวกรรมศาสตร์ ในระดับต่าง ๆ ในสาขาต่าง ๆ, ปริญญา ปรัชญา ดุษฎีบัณฑิต ( PhD ), ปริญญาวิทยาศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต ( ScD ), และปริญญาเพื่อวิชาชีพ ( master degree ) ต่าง ๆ เช่นปริญญา สถาปัตยกรรม มหาบัณฑิต ( MArch ) [ 172 ], ปริญญาการบริหารมหาบัณฑิต ( MBA ) [ 173 ], ปริญญา การวางผังเมือง มหาบัณฑิต ( Master of City Planning ตัวย่อ MCP ) [ 174 ], ปริญญาวิศวกรรมศาสตร์มหาบัณฑิต ( MEng ) [ 175 ], และปริญญา การเงิน มหาบัณฑิต ( Master of Finance ตัวย่อ MFin ) นอกจากนั้นแล้ว ยังมีโปรแกรมระดับบัณฑิตศึกษาแบบข้ามสาขาเช่นปริญญา แพทย์ศาสตร์ บัณฑิต/ปรัชญามหาบัณฑิต โดยทำร่วมกับโรงเรียนการแพทย์ของ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ( Harvard Medical School ) [ 176 ] [ 177 ] การรับนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาไม่ได้ทำอย่างรวมศูนย์กลาง แต่นักศึกษาต้องสมัครไปยังที่คณะการศึกษาหรือคณะผู้บริหารโปรแกรมการศึกษาโดยตรง นักศึกษาระดับดุษฎีบัณฑิตเกินกว่า 90 % ได้รับความช่วยเหลือด้วยทุนการศึกษา ( company ), งานเป็นผู้ช่วยงานวิจัย ( research assistantship ), หรือ งานเป็นผู้ช่วยสอน ( teaching assistantship ) [ 178 ] MIT มอบปริญญามหาบัณฑิตให้นักศึกษา 1,547 คน และปริญญาดุษฎีบัณฑิต 609 คนในปีการศึกษา ค.ศ. 2010-2011 [ 155 ] ในภาคการศึกษาฤดูใบไม้ร่วงในปี ค.ศ. 2011 โรงเรียนวิศวกรรมศาสตร์เป็นภาคที่นิยมที่สุด ( มีนักศึกษา 45 % ) ตามมาด้วยโรงเรียนการบริหารสโลน ( 19 % ) โรงเรียนวิทยาศาสตร์ ( 16.9 % ) โรงเรียนสถาปัตยกรรรมและการวางแผน ( 9.2 % ) วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สุขภาพวิทะเกอร์ ( 5.1 % รวมนักศึกษาข้ามสถาบัน 196 คนที่จะได้ปริญญาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเท่านั้น ) และโรงเรียนมนุษยศาสตร์ ศิลปศาสตร์ และสังคมศาสตร์ ( 4.7 % ) ส่วนโปรแกรมที่มีนักศึกษามากที่สุดก็คือสาขาการบริหารมหาบัณฑิต ( MBA ) วิศวกรรมไฟฟ้า และ วิทยาการคอมพิวเตอร์ และ วิศวกรรมเครื่องกล [ 152 ]
ในการจัดลำดับมหาวิทยาลัยในที่ต่าง ๆ MIT มักจะอยู่ใน 10 อันดับแรกของการจัดลำดับโดยทั่วไปและการจัดลำดับตามความชอบใจของนักศึกษา ( ดูตาราง ) [ 187 ] [ 188 ] [ 189 ] คือ เป็นเวลาหลายปีที่นิตยสาร รายงานข่าวสหรัฐและของโลก (U.S. News & World Report), หนังสือรายปี ลำดับมหาวิทยาลัยโลกคิวเอ็ส (QS World University Rankings), และหนังสือรายปี ลำดับการศึกษาของมหาวิทยาลัยโลก (Academic Ranking of World Universities) จัดโรงเรียน วิศวกรรมศาสตร์ ของ MIT เป็นอันดับหนึ่งของสหรัฐและ/หรือของโลก และแม้แต่รายงานประจำทศวรรษของคณะกรรมการงานวิจัยแห่งชาติสหรัฐอเมริกา ( United States National Research Council ) พิมพ์ในปี ค.ศ. 1995 ก็เช่นกัน [ 190 ] และแหล่งข้อมูลเดียวกันนั่นแหละแสดงว่า ส่วนการศึกษาที่เด่นที่สุดนอกเหนือจาก วิศวกรรมศาสตร์ สาขาต่าง ๆ ก็คือ วิทยาการคอมพิวเตอร์, สาขาต่าง ๆ ของ วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ, การบริหาร, เศรษฐศาสตร์, ภาษาศาสตร์, คณิตศาสตร์, และสาขาที่มีลำดับต่ำลงไปบ้าง คือ รัฐศาสตร์ และ ปรัชญา [ 9 ] [ 10 ] [ 11 ] [ 12 ] [ 191 ]

ในปี ค.ศ. 2014 นิตยสาร Money ยกสถาบันให้เป็นที่ 3 ในรายการ “ วิทยาลัยที่คุ้มค่าเงินที่สุด ( Best Colleges for Your Money ) ” โดยประเมินคุณภาพการศึกษา ค่าใช้จ่ายที่พอสู้ได้ และผลที่ได้ในการทำงาน [ 192 ] ส่วนนิตยสาร ฟอบส์ ในปีเดียวกัน ยกสถาบันให้เป็นที่ 2 ในรายการ “ มหาวิทยาลัยที่มี วัฒนธรรม ในการเริ่มกิจการธุรกิจที่ดีที่สุด ( Most Entrepreneurial University ) ” โดยกำหนดอัตราศิษย์เก่าและนักศึกษาที่บ่งชี้ตัวเองว่า เป็นผู้จัดตั้งหรือเป็นเจ้าของกิจการในเว็บไซต์สังคม ลิงด์อิน [ 193 ] ในปี ค.ศ. 2015 Brookings Institution รายงานในบทความ “ เหนือไปจากลำดับวิทยาลัย ( Beyond College Rankings ) ” ยก MIT ให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 3 ในสหรัฐ ที่เพิ่มคุณค่าทางเงินเดือนให้ประมาณ 45 % ในช่วงกลางอาชีพ [ 194 ]
หอประชุมเครสก์ ( Kresge Auditorium ค.ศ. 1955 ) ออกแบบโดย Eero Saarinen เป็นตัวอย่างคลาสสิกของสถาปัตยกรรมหลังสงคราม ตามประวัติแล้ว สถาบันมักจะริเริ่มการร่วมมือกันทางงานวิจัยและการศึกษา กับองค์กรการศึกษา อุตสาหกรรม และรัฐ [ joule ] [ k ] ในปี ค.ศ. 1946 อธิการบดีคอมป์ตัน, ศาสตราจารย์สาขาการบริหารของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดจอร์จส โดรีอ็อท, และประธาน Massachusetts Investor Trust เมอร์ริล์ล กริสส์โวลด์ ก่อตั้งบริษัท American Research & Development Corp ซึ่งเป็นบริษัทร่วมลงทุน ( speculation capital ) อเมริกันเป็นบริษัทแรก ( ในประเทศ ) [ 197 ] [ 198 ] ในปี ค.ศ. 1948 อธิการบดีคอมป์ตันก่อตั้งโปรแกรมการประสานงานกับอุตสาหกรรมเอ็มไอที ( MIT Industrial Liaison Program ) [ liter ] ในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1980 และต้นทศวรรษ 1990 นักการเมืองและผู้นำทางธุรกิจชาวอเมริกันโทษ MIT และมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ในฐานมีส่วนร่วมทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่เริ่มตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1980 โดยทรานสเฟอร์งานวิจัยและเทคโนโลยีที่ได้ทุนมาจากภาษีของประชาชน ไปยังบริษัทต่างชาติ โดยเฉพาะของ ชาวญี่ปุ่น ที่เป็นคู่แข่งของบริษัทอเมริกันที่กำลังเดือดร้อน [ 200 ] [ 201 ] โดยอีกมุมมองหนึ่ง การร่วมมืออย่างใกล้ชิดอย่างกว้างขวางของสถาบันกับรัฐบาลกลางในงานวิจัยต่าง ๆ มีผลให้ผู้นำสถาบันหลายคนได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ให้คำปรึกษาทางวิทยาศาสตร์ของ ประธานาธิบดี สหรัฐตั้งแต่ปี ค.ศ. 1940 [ 202 ] MIT จัดตั้งสำนักงานในเมืองหลวง วอชิงตัน ดี.ซี. ในปี ค.ศ. 1991 เพื่อรักษาประสิทธิภาพในการวิ่งเต้นกับรัฐบาลกลาง เพื่อเงินทุนงานวิจัยและนโยบายวิทยาศาสตร์ของชาติ [ 203 ] [ 204 ] กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐ ( Justice Department ) เริ่มการสืบสวนคดีในปี ค.ศ. 1989 และในปี ค.ศ. 1991 ยกคดีการผูกขาดฟ้อง MIT ในศาล, มหาวิทยาลัย ไอวีลีก ทั้ง 8, และสถาบันอื่น ๆ อีก 11 แห่ง ฐานรวมหัวกันกำหนดราคา ( ค่าเรียน ) ในงานประชุมประจำปีที่เรียกว่า Overlap Meetings ที่จัดเพื่อป้องกันสงครามประมูลราคาระหว่างสถาบันเพื่อนักศึกษาคุณภาพ ซึ่งจะดึงทุนไปจากทุนการศึกษาที่ให้ตามความจำเป็นของนักศึกษา [ 205 ] [ 206 ] ถึงแม้ว่ามหาวิทยาลัย ไอวีลีก จะประนีประนอมยอมความนอกศาล [ 207 ] MIT ได้สู้ความในศาล โดยโต้ว่าวิธีเช่นนี้ไม่ได้ต่อต้านการแข่งขัน เพราะว่าเป็นวิธีที่สามารถให้การช่วยเหลือแก่นักศึกษาเป็นจำนวนมากที่สุด [ 208 ] [ 209 ] ในที่สุด MIT ก็ชนะคดีเมื่อกระทรวงยุติธรรมถอนคำฟ้องในปี ค.ศ. 1994 [ 210 ] [ 211 ]
อาคารอนุสรณ์อธิการบดีวอล์กเกอร์ ( Walker Memorial ) เป็นอนุสรณ์ของอธิการบดีคนที่ 4 ของสถาบันคือฟรานซิส วอล์กเกอร์ วิทยาเขตส่วนหลัก มองจากถนนวาซซ่าร์ ( Vassar Street ) มองเห็นมหาโดมไกล ๆ และศูนย์สตาตาทางขวามือ การมีวิทยาเขตอยู่ใกล้ชิดกับ [ thousand ] มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ( ที่ชุมชน MIT เรียกว่า “ the other school up the river ไอ้อีกมหา’ลัยหนึ่งที่อยู่เหนือแม่น้ำ ” ) มีผลให้สถาบันทั้งสองร่วมมือกัน เช่น ร่วมสร้างหน่วยการศึกษาสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสุขภาพฮาร์วาร์ด-เอ็มไอที ( Harvard-MIT Division of Health Sciences and Technology ) และสถาบันบรอด ( Broad Institute ) [ 212 ] นอกจากนั้นแล้ว นักศึกษาจากทั้งสองสถาบันสามารถลงทะเบียนวิชาของอีกสถาบันหนึ่ง เพื่อหน่วยกิตสำหรับสถาบันของตนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม [ 212 ] ยิ่งไปกว่านั้น โปรแกรมการลงทะเบียนเรียนวิชาข้ามสถาบันระหว่าง MIT และวิทยาลัยเวลล์สลีย์ ( Wellesley College ) ก็มีมาแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 1969 ในปี ค.ศ. 2002 สถาบันเคมบริดจ์-เอ็มไอที ( Cambridge-MIT Institute ) ได้เริ่มโปรแกรมแลกเปลี่ยนนักศึกษาปริญญาตรีระหว่าง MIT และ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ แห่ง ประเทศอังกฤษ [ 212 ] นอกจากนั้นแล้ว MIT ยังมีโปรแกรมการลงทะเบียนเรียนวิชาข้ามสถาบันกับมหาวิทยาลัยบอสตัน ( Boston University ) มหาวิทยาลัยแบรนไดส์ ( Brandeis University ) มหาวิทยาลัยทัฟส์ วิทยาลัยศิลปศาสตร์แมสซาชูเซตส์ ( Massachusetts College of Art ) และโรงเรียนพิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์ในเมืองบอสตัน ( School of the Museum of Fine Arts ) อีกด้วย แม้จะอยู่ในระดับที่น้อยกว่าสถาบันอื่นที่กล่าวมาก่อน [ 212 ] MIT มีความสัมพันธ์ด้านการวิจัยและการแลกเปลี่ยนบุคคลากรผู้สอน กับองค์กรการวิจัยอิสระในเขตมหานคร บอสตัน อีกหลายสถาบัน เช่นแล็บชาลส์สตาร์กเดรปเปอร์ ( เพื่อการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อการทหาร การสำรวจอวกาศ สุขภาพ และพลังงาน ), สถาบันไวท์เฮดเพื่อการวิจัยชีวเวช ( Whitehead Institute for Biomedical Research เพื่องานวิจัยเกี่ยวกับ ชีวเวช และ จีโนมิกส์ ), สถาบันสมุทรศาสตร์วูดสโฮล ( เพื่องานวิจัยเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ทางทะเล ) และองค์กรการวิจัยและการศึกษานานาชาติที่เป็นไปอย่างต่อเนื่องอื่น ๆ รวมทั้ง โครงการพันธมิตรสิงคโปร์-เอ็มไอที ( Singapore-MIT Alliance กับมหาวิทยาลัยสิงคโปร์แห่งชาติและมหาวิทยาลัยเทคนิคนานยางของ ประเทศสิงคโปร์, MIT-Politecnico di Milano ( กับมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิค มิลาน ) [ 212 ] [ 213 ] โปรแกรม โลจิสติกส์ สากลเอ็มไอที-ซาราโกซา ( MIT-Zaragoza International Logistics Program กับมหาวิทยาลัยซาราโกซาแห่ง ประเทศสเปน ) และโครงการต่าง ๆ อื่นกับประเทศอื่น ๆ โดยดำเนินการผ่านโปรแกรมริเริ่มทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ( MIT International Science and Technology Initiatives ) [ 212 ] [ 214 ] สถาบันมี นิตยสาร ที่พิมพ์ขายโดยทั่วไปคือ Technology Review ซึ่งพิมพ์โดยบริษัทในเครือ และมีฉบับที่พิมพ์พิเศษเป็นนิตยสารสำหรับศิษย์เก่า [ 215 ] [ 216 ] โรงพิมพ์ MIT Press เป็นโรงพิมพ์มหาวิทยาลัยที่สำคัญโรงพิมพ์หนึ่ง ตีพิมพ์หนังสือกว่า 200 เล่ม และวารสารกว่า 30 ฉบับต่อปี โดยเน้นประเด็นทั้งทาง วิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยี ทั้งทาง ศิลปศาสตร์ สถาปัตยกรรม สื่อใหม่ ๆ เหตุการณ์ปัจจุบัน และปัญหาสังคม [ 217 ]
สถาบันมีห้องสมุด 5 แห่งแบ่งตามสาขาวิชา คือ ห้องสมุดบาร์กเกอร์ ( วิศวกรรมศาสตร์ ) ห้องสมุดดิวอี้ ( เศรษฐศาสตร์ ) ห้องสมุดเฮเด็น ( มนุษยศาสตร์ และ วิทยาศาสตร์ ) ห้องสมุดลิวอิส ( การดนตรี ) และห้องสมุดร็อตช์ ( ศิลปศาสตร์ และ สถาปัตยกรรม ) นอกจากนั้นแล้ว ยังมีห้องสมุดพิเศษและสถานที่เก็บเอกสารอื่น ๆ รวม ๆ กันแล้ว ห้องสมุดทั้งหมดมีหนังสือตีพิมพ์มากกว่า 2.9 ล้านเล่ม เอกสารพิมพ์ย่อลงในฟิลม์หรือสื่ออื่น ๆ ( microform ) กว่า 2.4 ล้านชิ้น เป็นสมาชิกวารสารที่เป็นทั้งสิ่งตีพิมพ์ทั้งสื่ออิเล็กทรอนิกส์กว่า 49,000 ฉบับ และ ฐานข้อมูล อ้างอิงคอมพิวเตอร์ 670 ฐาน ในทศวรรษที่ผ่านมา สื่อดิจิทัล ( สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ) ได้รับความสนใจมากขึ้นเทียบกับสื่อตีพิมพ์ [ 218 ] สิ่งเก็บรวบรวมที่น่าสนใจมีทั้งงานดนตรีคริสต์ศตวรรษที่ 20 และ 21 กับงานดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ ของห้องสมุดลิวอิส [ 219 ] ทั้งนิทรรศการศิลปะร่วมสมัยที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ของศูนย์ทัศนศิลป์ลิสต์ ( List Visual Arts Center ) [ 220 ] ทั้งนิทรรศการข้ามศาสตร์ของหอศิลป์คอมป์ตัน [ 221 ] สถาบันแบ่งส่วนหนึ่งของงบประมาณการสร้างและการบูรณะ เพื่อว่าจ้างการทำและการรักษา งานศิลป์และงาน ประติมากรรม กลางแจ้งเป็นจำนวนมาก โดยเป็นศิลป์สะสมที่เปิดให้ชนทั่วไปชม [ 222 ] [ 223 ] พิพิธภัณฑ์ MIT เปิดขึ้นในปี ค.ศ. 1971 เพื่อสะสม รักษา และจัดแสดงวัตถุต่าง ๆ ที่สำคัญต่อวิถีชีวิตในสถาบัน หรือประวัติของสถาบัน และยังดำเนินการร่วมกับพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ของเมือง บอสตัน ที่อยู่ใกล้ ๆ อีกด้วย [ 224 ]
สถาบันได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของ สมาคมมหาวิทยาลัยอเมริกัน [ 41 ] [ 145 ] ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ความกว้างขวางและคุณภาพของโปรแกรมงานวิจัยและการศึกษาของสถาบัน ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับงานวิจัยทั้งหมดรวมเป็นเงิน 718.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี ค.ศ. 2009 [ 225 ] รัฐบาลกลางเป็นผู้สนับสนุนงานวิจัยรายใหญ่ที่สุด โดยกระทรวงต่าง ๆ คือ กระทรวงการบริการเกี่ยวกับสุขภาพและเกี่ยวกับชีวิตของมนุษย์อื่น ๆ ( Department of Health and Human Services ) ให้ทุนเป็นจำนวน 255.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กระทรวงกลาโหมให้ 97.5 ล้านเหรียญ กระทรวงพลังงานให้ 65.8 ล้านเหรียญ และโดยองค์กรอิสระต่าง ๆ คือ มูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐอเมริกา ให้ 61.4 ล้านเหรียญ และองค์การ นาซา ให้ 27.4 ล้านเหรียญ [ 225 ] MIT มีผู้ทำงานวิจัยอีก 1,300 คนนอกเหนือจากคณะอาจารย์ [ 226 ] ในปี ค.ศ. 2011 คณะอาจารย์และนักวิจัยของสถาบันประกาศสิ่งประดิษฐ์ใหม่ 632 อย่าง รับ สิทธิบัตร 153 บัตร ได้เงินรายได้ 85.4 ล้านเหรียญ และรับค่าสิทธิ ( royalties ) เป็นจำนวนเงิน 69.6 ล้านเหรียญ [ 227 ] โดยดำเนินการผ่านโปรแกรมของสถาบันเช่น Deshpande Center คณะอาจารย์ได้โอกาสในการใช้ผลงานวิจัยและสิ่งค้นพบ ในการสร้างธุรกิจมีค่าเป็นหลายล้านดอลลาร์สหรัฐ [ 228 ]
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์เช่นหน่วยความจำวงแหวนแม่เหล็ก ( magnetic effect memory ), เรดาร์, unmarried electron transistor, และระบบนำวิถีอาศัยหลักความเฉื่อย เป็นสิ่งที่ประดิษฐ์หรือพัฒนาขึ้นอย่างสำคัญที่ MIT [ 229 ] [ 230 ] ศ.แฮโรลด์ ยูจีน เอ็ดเกอร์ตัน เป็นผู้นำในงานวิจัยเกี่ยวกับการถ่ายภาพความเร็วสูงและโซนาร์ [ 231 ] [ n ] ดร. คล็อด แชนนอน คิดค้น ทฤษฎีสารสนเทศ และค้นพบการประยุกต์ใช้ตรรกะแบบบูล ( Boolean logic ) เพื่อใช้ในทฤษฎีการออกแบบวงจรดิจิตัล ( digital racing circuit ) [ 233 ] ในสาขา วิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะอาจารย์และนักวิจัยของสถาบันมีส่วนสำคัญในการพัฒนาหลักวิทยาการพื้นฐาน เช่น นอร์เบิร์ต ไวน์เนอร์ มีส่วนในทฤษฎีไซเบอร์เนติกส์ ศ.มาร์วิน มินสกี ใน ปัญญาประดิษฐ์ ศ.โจเซ็ฟ ไวเซ็นบอม ใน ภาษาคอมพิวเตอร์ ศ.แพ็ททริก วินสตัน ใน การเรียนรู้ของเครื่อง ศ.ร็อดนีย์ บรุกส์ ใน วิทยาการหุ่นยนต์ และ ศ.โรนัลด์ ไรเวสต์ ( ผู้ค้นพบ ขั้นตอนวิธี การเข้ารหัสลับ RSA ) ใน วิทยาการเข้ารหัสลับ [ 230 ] [ 234 ] ในสาขา วิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะอาจารย์และนักวิจัยของสถาบันมีส่วนสำคัญในการพัฒนาหลักวิทยาการพื้นฐาน เช่น นอร์เบิร์ต ไวน์เนอร์ มีส่วนในทฤษฎีไซเบอร์เนติกส์ ศ.มาร์วิน มินสกี ใน ปัญญาประดิษฐ์ ศ.โจเซ็ฟ ไวเซ็นบอม ใน ภาษาคอมพิวเตอร์ ศ.แพ็ททริก วินสตัน ใน การเรียนรู้ของเครื่อง ศ.ร็อดนีย์ บรุกส์ ใน วิทยาการหุ่นยนต์ และ ศ.โรนัลด์ ไรเวสต์ ( ผู้ค้นพบ ขั้นตอนวิธี การเข้ารหัสลับ RSA ) ใน วิทยาการเข้ารหัสลับ [ 230 ] [ 235 ] สถาบันมีบุคคลที่ได้รับ รางวัลทัวริง อย่างน้อย 9 คน และที่ได้รับรางวัลเดรปเปอร์ ( Draper Prize, ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น รางวัลโนเบล ของสาขา วิศวกรรมศาสตร์ ) อย่างน้อย 7 คน ที่เกี่ยวเนื่องกับสถาบัน [ 236 ] [ 237 ]
ทั้งคณะอาจารย์ฟิสิกส์ชุดปัจจุบันและชุดก่อน ๆ รวมกันแล้วได้รับ รางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ 8 รางวัล [ 238 ] เหรียญ Dirac Medals ขององค์กร Abdus Salam International Centre for Theoretical Physics ( ITCP ) 4 รางวัล [ 239 ] และ รางวัลวูล์ฟ 3 รางวัลโดยหลักเพื่องานในทฤษฎี อนุภาคที่เล็กกว่าอะตอม และทฤษฎี กลศาสตร์ควอนตัม [ 240 ] ส่วนคณะอาจารย์เคมีได้รับ รางวัลโนเบลสาขาเคมี 3 รางวัล และรางวัลวูล์ฟ 1 รางวัล สำหรับการคิดค้นการสังเคราะห์และวิธีการสังเคราะห์สารเคมีใหม่ ๆ [ 238 ] ส่วนคณะอาจารย์ชีววิทยาได้รับ รางวัลโนเบลสาขาแพทย์ศาสตร์ 6 รางวัล สำหรับงานในสาขา พันธุศาสตร์ วิทยาภูมิคุ้มกัน วิทยามะเร็ง และ อณูชีววิทยา [ 238 ] ศ.อีริก แลนด์เดอร์ เป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำใน โครงการจีโนมมนุษย์ [ 241 ] [ 242 ] อะตอมของระบบ Positronium [ 243 ] เพนิซิลลิน สังเคราะห์ [ 244 ] และโมเลกุลสังเคราะห์ที่ขยายพันธุ์เอง ( man-made self-replicating molecules ) [ 245 ] และเหตุทาง พันธุกรรม ของโรค เซลล์ประสาท สั่งการ Lou Gehrig ‘s disease และ โรคฮันติงตัน ล้วนแต่ค้นพบก่อนที่ MIT [ 246 ] ศ.เจโรม เล็ตต์วิน ปฏิรูป ประชานศาสตร์ ( cognitive skill ) ด้วยงานของเขาที่มีชื่อว่า “ What the frog ‘s eye tells the frog ‘s brain ( สิ่งที่ตาของกบบอกสมองของกบ ) ” [ 247 ] ในสาขา มนุษยศาสตร์ ศิลปศาสตร์ และ สังคมศาสตร์ นัก เศรษฐศาสตร์ ของสถาบันได้รับ รางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ 5 รางวัล และเหรียญ John Bates Clark Medal 9 รางวัล [ 238 ] [ 248 ] ส่วนนักภาษาศาสตร์ ศ. โนม ชัมสกี และ ศ.มอร์ริส ฮัลเล เขียนหนังสือที่มีอิทธิพลเกี่ยวกับไวยากรณ์เพิ่มพูน ( generative grammar ) และ สัทวิทยา [ 249 ] [ 250 ] มีเดียแล็บ ( MIT Media Lab ) ที่ตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1985 ภายใต้โรงเรียน สถาปัตยกรรม และการวางแผน เป็นแล็บที่รู้จักกันดีโดยงานวิจัยที่ไม่เหมือนใคร [ 251 ] [ 252 ] เป็นที่ทำการของนักวิจัยที่มีชื่อเสียง เช่น ศ.เซมอร์ เพเปอรต์ ผู้เป็นอาจารย์สอน ทฤษฎีการเรียนรู้ Constructivism และผู้ประดิษฐ์ ภาษาโปรแกรม Logo [ 253 ] บุคคลที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน 38 บุคคลได้รับ รางวัล MacArthur Fellowship ( มีชื่อเล่นว่า รางวัลอัจฉริยะ ) โดยครอบคลุมหลายสาขาวิชาที่ได้กล่าวมาแล้ว [ 254 ] มีผู้รับ รางวัลพูลิตเซอร์ 4 คนที่กำลังทำงานหรือเคยทำงานที่สถาบัน [ 255 ] อาจารย์ปัจจุบันหรือในอดีต 4 คนเป็นสมาชิกของสถาบันศิลปศาสตร์และอักษรศาสตร์อเมริกัน ( american Academy of Arts and Letters ) [ 256 ] การกล่าวหาถึงการกระทำไม่ชอบหรือไม่สมควรในงานวิจัย มักได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก คือ ศ.เดวิด บัลติมอร์ ผู้ได้รับ รางวัลโนเบลสาขาแพทย์ศาสตร์ ในปี ค.ศ. 1975 ถูกตรวจสอบเกี่ยวกับการกระทำไม่ชอบในงานวิจัยในปี ค.ศ. 1986 จนกระทั่งถึงกับถูกตรวจสอบโดย รัฐสภาสหรัฐ ในปี ค.ศ. 1991 [ 257 ] [ 258 ] ส่วน ศ.เท็ด โพสต์ตัล ( เป็น ศ. วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และความมั่นคงนานาชาติ ของสถาบัน ) ได้กล่าวหาผู้บริหารสถาบันตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 ว่าพยายามปกปิดสิ่งที่อาจเป็นการกระทำไม่ชอบในงานวิจัยที่แล็บลิงคอล์น เกี่ยวข้องกับการทดสอบระบบป้องกันขีปนาวุธ แม้ว่าการสืบสวนประเด็นนี้จะยังไม่สิ้นสุดลง [ 259 ] [ 260 ] ในปี ค.ศ. 2005 สถาบันไล่ รองศาสตราจารย์ Luk Van Parijs ออกจากตำแหน่งหลังจากได้รับการกล่าวหาว่าทำการไม่ชอบในงานวิจัย ผู้หลังจากนั้นก็ถูกตัดสินโดยศาลว่าทำผิดในปี ค.ศ. 2009 [ 261 ] [ 262 ]
ทั้งคณะอาจารย์และนักศึกษาให้ค่านิยมกับการประสบความสำเร็จด้วยตน ( meritocracy ) และความเชี่ยวชาญตามหลักวิชาเฉพาะอย่าง ( technical foul proficiency ) [ 263 ] [ 264 ] สถาบันไม่เคยมอบ ปริญญากิตติมศักดิ์ ไม่เคยให้ทุนการศึกษาเพราะความสามารถทางการกีฬา ไม่เคยให้ปริญญาแบบ ad eundem ( เป็นปริญญาให้แก่บุคคลที่สำเร็จการศึกษาปริญญานั้นในสถาบันอื่น ) และไม่เคยให้ปริญญาพร้อมกับเกียรตินิยม ( เช่นอันดับ 1 อันดับ 2 เป็นต้น ) [ 265 ] ถึงอย่างนั้น สถาบันก็ยังเคยให้ตำแหน่ง ศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ 2 ตำแหน่งคือ กับ นายกรัฐมนตรี อังกฤษ วินสตัน เชอร์ชิล ในปี ค.ศ. 1949 และกับนักเขียน ซัลมัน รัชดี ในปี ค.ศ. 1993 [ 266 ] นักศึกษาปี 3 และ ปี 4 และศิษย์เก่า มักจะใส่แหวนรุ่นที่หนัก ใหญ่ มีเอกลักษณ์ ที่เรียกว่า “ Brass Rat ( หนู [ บีเวอร์ ] ทองเหลือง ) ” [ 267 ] [ 268 ] โดยมีกำเนิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1929 ชื่อทางการของแหวนก็คือ “ Standard Technology Ring ( แหวนมาตรฐานเทคโนโลยี หมายความว่า แหวนมาตรฐานของเทคคือสถาบัน ) ” [ 269 ] การออกแบบแหวนของนักศึกษาปริญญาตรี ( ที่ต่างจากของนักศึกษาบัณฑิตศึกษา ) ต่างกันเล็ก ๆ น้อย ๆ จากปีสู่ปี เพื่อสะท้อนถึงประสบการณ์พิเศษที่มีกับสถาบันของนักศึกษารุ่นนั้น แต่จะมีรูปแบบเหมือนกันโดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ มีตราของสถาบันและปีจบการศึกษาของนักศึกษาอยู่คนละส่วน ขนาบหน้าสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ตรงกลางที่มีรูปของบีเวอร์อเมริกัน [ 267 ] ส่วน อักษรย่อ ว่า “ IHTFP ” ซึ่งย่อคำขวัญไม่เป็นทางการของสถาบันคือ “ I Hate This Fucking Place ( ไอ้ … เอ๊ย กูเกลียดที่นี่มาก ) ” หรือคำขวัญขำ ๆ อื่น ๆ เช่น “ I Have truly Found Paradise ( ฉันได้มาถึงสวรรค์ที่แท้จริงแล้ว ) ” “ Institute Has The Finest Professors ( สถาบันมีอาจารย์ที่สุดยอดจริง ๆ ) ” “ It ‘s hard to Fondle Penguins ( มันยากนะที่จะลูบคลำ นกเพนกวิน ด้วยความรัก ) ” บางครั้งก็จะปรากฏตัวในแหวนบางรุ่นเพราะประวัติความเด่นของคำขวัญนี้ในประเพณีชีวิตของนักศึกษา [ 270 ]
จุดเริ่มต้นงานประเพณีประจำปี “ งานล่าปริศนาลับ ” ( MIT Mystery Hunt ) ในปี ค.ศ. 2007 MIT มีกลุ่มกิจกรรมนักศึกษากว่า 500 กลุ่มที่สถาบันยอมรับ [ 271 ] รวมกิจกรรมของสถานีวิทยุประจำวิทยาเขต WMBR หนังสือพิมพ์นักศึกษา The Tech การแข่งขัน ( ชิงทุนธุรกิจ ) ประจำปี ( MIT $ 100K Entrepreneurship Competition ) และภาพยนตร์ยอดนิยมประจำสัปดาห์โดยกลุ่มนักศึกษา Lecture Series Committee และยังมีกลุ่มกิจกรรมที่ไม่เหมือนคนอื่นรวมทั้งสมาคมนวนิยายวิทยาศาสตร์ MIT ( MIT Science Fiction Society ) ซึ่งอ้างว่า “ มีหนังสือนิยายวิทยาศาสตร์ ( ภาษาอังกฤษ ) ในตู้เปิดมากที่สุดในโลก ” สโมสรรถไฟจำลอง ( model railroad track baseball club ) และเท็คสแควร์ส ( Tech Squares ) ซึ่งเป็นสโมสรเต้นรำสไตล์ “ advanced western squares ” นอกจากนี้แล้ว มีนักศึกษา คณะอาจารย์ และบุคคลากรอื่นที่ทำงานในโปรแกรมเพื่อการศึกษาการกุศลและบริการสาธารณะอื่น ๆ โดยผ่านพิพิธภัณฑ์ MIT, ศูนย์เอ็ดเกอร์ตัน, และศูนย์บริการสาธารณะเอ็มไอที [ 272 ] ช่วงเวลากิจกรรมอิสระ ( freelancer Activities Period ตัวย่อ IAP ) เป็น “ ภาคการศึกษา ” ระยะเวลา 4 อาทิตย์ ที่มีชั้นวิชา ( เลือก ) เล็กเช่อร์ นิทรรศการ และกิจกรรมอื่น ๆ เป็นหลายร้อยอย่าง ในเดือนมกราคมซึ่งเป็นช่วงเวลาระหว่างภาคการศึกษาฤดูใบไม้ตกและภาคการศึกษาฤดูใบไม้ผลิ กิจกรรม IAP ยอดนิยมที่จัดขึ้นบ่อย ๆ รวมทั้ง 6.270 ( การแข่งขันหุ่นยนต์มีโครงเป็น เลโก้ ), 6.370 ( การแข่งขันเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นหุ่นยนต์สู้กัน ), และ MasLab ( การแข่งขันหุ่นยนต์ที่อาศัยระบบการเห็น ) [ 273 ] งานล่าปริศนาลับ ( MIT Mystery Hunt ) ประจำปี, [ 274 ] และโรงเรียนสร้างเสน่ห์ ( Charm School ) [ 275 ] [ 276 ] นักศึกษามากกว่า 250 คนทำงานในช่วงเวลาอิสระ ( ในระบบ externship ) กับบริษัททั้งในสหรัฐทั้งต่างประเทศทุก ๆ ปี ซึ่งบางครั้งอาจจะนำไปสู่งานในช่วงปิดเทอม ( ในระบบ internship ) และแม้แต่งานจริง ๆ หลังจากจบการศึกษาแล้ว [ 277 ] [ 278 ]
นักศึกษาหลายพวกยังร่วมทำวีรกรรมทีเรียกว่า “ hack ” ซึ่งหมายถึงการลอบเข้าไปสำรวจเขตต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัย ที่ปกติไม่เปิดให้เข้าถึง ( เช่นบนหลังคาหรือในอุโมงค์ส่งไอน้ำ ) หรือการเล่นตลกที่ค่อนข้างซับซ้อน ( เช่นเอารถตำรวจที่มีสัญญาณไฟที่ใช้ได้ไปไว้บนหลังคามหาโดม พร้อมกับตุ๊กตาคุณตำรวจที่มีถ้วยกาแฟและกล่อง โดนัท อยู่ใกล้ ๆ ) [ 279 ] [ 280 ] งาน hack ที่เด่นเร็ว ๆ นี้ก็คือ

  • การลักเอาปืนใหญ่มีอายุ 130 ปี ขนาด 1.7 ตัน ของสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย (แคลเท็คเป็นสถาบันคู่แข่งในเมืองแพซาดีนาอยู่อีกฝั่งหนึ่งของทวีปทางทิศตะวันตก) มาตั้งไว้ที่วิทยาลัยเขตในปี ค.ศ. 2006[281]
  • งานสร้างใหม่ซึ่งเครื่องบินยนต์ลำแรกของโลกที่สร้างโดยสองพี่น้องไรต์ โดยนำไปไว้บนหลังคามหาโดม[282]
  • การประดับรูปปั้นของบาทหลวงจอห์น ฮาร์วาร์ด ที่ตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดด้วยหมวกแบบสปาร์ตันของพระเอกในเกมคอมพิวเตอร์ชุด Halo ชื่อว่า Master Chief Petty Officer John-117[283]

ศูนย์กีฬา Zesiger sports and seaworthiness center เป็นศูนย์ออกกำลังกายสองชั้น มีสระสำหรับว่ายน้ำและสำหรับกระโดดน้ำ MIT สนับสนุนทีมแข่งขันกีฬาระดับมหาวิทยาลัย 31 ทีม ซึ่งเป็นโปรแกรมที่จัดว่ากว้างขวางโปรแกรมหนึ่งในบรรดามหาวิทยาลัยที่มีทีมกีฬาระดับ NCAA ภาค 3 ( เป็นภาคที่ไม่ให้ทุนการศึกษาเนื่องกับกีฬาของสมาคมกีฬาวิทยาลัยแห่งชาติ [ National Collegiate Athletic Association ตัวย่อ NCAA ] ) [ 284 ] [ 285 ] ทีมของ MIT

  • แข่งขันในกลุ่มต่าง ๆ ของ NCAA ภาค 3 คือ กลุ่มแข่งกีฬาชายหญิงเขตนิวอิงแลนด์ (New England Women’s and Men’s Athletic Conference), กลุ่มอเมริกันฟุตบอลเขตนิวอิงแลนด์ (New England Football Conference), และ Pilgrim League สำหรับกีฬา lacrosse ทีมผู้ชาย
  • แข่งขันในกลุ่มต่าง ๆ ของ NCAA ภาค 1 คือ สมาคมวิทยาลัยพายเรือหญิงเขตตะวันออก (Eastern Association of Women’s Rowing Colleges) สำหรับนักกีฬาพายเรือหญิง และสมาคมวิทยาลัยโปโลน้ำ (Collegiate Water Polo Association) สำหรับนักโปโลชาย
  • และแข่งขันในกลุ่มนอก NCAA คือ สมาคมวิทยาลัยพายเรือเขตตะวันออก (Eastern Association of Rowing Colleges) สำหรับนักกีฬาพายเรือชาย

ในเดือนเมษายน ปี ค.ศ. 2009 การตัดงบประมาณมีผลให้สถาบันยกเลิกทีมกีฬา 8 ทีม ( จากตอนนั้น 41 ) รวมทั้งทีมสกีรวมชายหญิง ทีมยิงปืนสั้นรวมชายหญิง ทีมชายและทีมหญิงในกีฬา ฮอกกี้น้ำแข็ง และกีฬา ยิมนาสติก และทีมชายในกีฬา กอล์ฟ และ มวยปล้ำ [ 286 ] [ 287 ] ทีมกีฬาของสถาบันเรียกว่า “ เดอะเอ็นจิเนียร์ส ” ( the Engineers ) โดยมีสัตว์ประจำทีมตั้งแต่ปี ค.ศ. 1914 เป็นบีเวอร์อเมริกัน ซึ่งเป็น “ วิศวกรโดยธรรมชาติ ( เพราะสร้างเขื่อน ) ” เล็สเตอร์ การ์ดเรอร์ ศิษย์รุ่น ค.ศ. 1898 ให้เหตุผลว่า
ตราสัญลักษณ์กีฬาของ MIT
MIT ยังส่งทีมแข่งขันระดับมหาวิทยาลัยที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในเกม “ Tiddlywinks ” ในคริสต์ทศวรรษ 1980 ได้ชัยชนะทั้งในระดับชาติและระดับโลก [ 289 ] MIT ยังเป็นแหล่งกำเนิดนักกีฬาถึง 188 คน ที่ได้รับเกียรติว่า “ All-Americans ” ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดลำดับ 3 ของสถาบันทั้งหมดที่เป็นสมาชิกของ NCAA และเป็นจำนวนมากที่สุดในภาค 3 [ 285 ] ศูนย์ Zesiger sports and seaworthiness center ( สั้น ๆ ว่า Z-Center ) ซึ่งเปิดในปี ค.ศ. 2002 ได้ขยายสมรรถภาพและคุณภาพของสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อนักกีฬา พละศึกษา และการพักผ่อนหย่อนคลาย รวมเป็นอาคาร 10 อาคารและสนามกีฬาเป็นพื้นที่ 66 ไร่ ศูนย์ Z-Center มีพื้นที่ 11,520 ต.ร.ม. มีสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิก สนามเล่นกีฬา squash ขนาดสากล และศูนย์ออกกำลังกาย 2 ชั้น [ 285 ]
ในปีการศึกษา ค.ศ. 2011-2012 MIT มีนักศึกษาระดับปริญญาตรี 4,384 คน และระดับบัณฑิตศึกษา 6,510 คน [ 152 ] มีนักศึกษาหญิงร้อยละ 45 ในระดับปริญญาตรี [ 152 ] [ 292 ] นักศึกษาทั้งระดับปริญญาตรีและระดับบัณฑิตศึกษามาจากทั้ง 50 รัฐ และจาก 115 ประเทศอื่น [ 293 ] มีผู้สมัคร 18,356 คนเพื่อเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรีในรุ่นนักศึกษาปี ค.ศ. 2018 ( ปีรับ 2014 ) ซึ่งสถาบันรับไว้ 1,447 คน ( 7.9 % ของผู้สมัคร ) และมีนักศึกษามาเข้าเรียน 1,043 ( 72.1 % ของผู้ที่สถาบันรับ ) มีผู้สมัคร 23,884 คนในระดับบัณฑิตศึกษารวมทุกคณะ ซึ่งสถาบันรับไว้ 3,390 คน ( 14.2 % ของผู้สมัคร ) และมีนักศึกษามาเข้าเรียน 2,168 คน ( 64 % ของผู้ที่สถาบันรับ ) [ 13 ] ในปีรับนักศึกษา 2015 พิสัยระหว่างควอร์ไทล์ของคะแนน SAT ของนักศึกษา อยู่ระหว่าง 2,110-2,350 และ 97 % ของนักศึกษาเรียนเก่งอยู่ในระดับท็อป 10 % ของโรงเรียนมัธยมปลายที่จบมา [ 125 ] ร้อยละ 99 ของนักศึกษารุ่นปี ค.ศ. 2013 กลับมาเรียนต่อปี 2 ร้อยละ 81 ของนักศึกษารุ่นปี ค.ศ. 2008 เรียนจบปริญญาภายใน 4 ปี ร้อยละ 91 ( 90 % ของผู้ชาย และ 92 % ของผู้หญิง ) เรียนจบปริญญาภายใน 6 ปี [ 125 ] [ 294 ] ในปี ค.ศ. 2012 ค่าหน่วยกิตและค่าธรรมเนียมของนักศึกษาระดับปริญญาตรีรวมเป็น 40,732 ดอลลาร์สหรัฐ ( ต่อปี ) และค่าใช้จ่ายแต่ละปีรวมกันทั้งหมดเป็นประมาณ 52,507 ดอลลาร์ 62 % ของนักศึกษาได้รับความช่วยเหลือทางการเงินเหตุจำเป็นในรูปแบบของทุนการศึกษาจากรัฐบาลกลาง จากรัฐบาลรัฐ จากสถาบันต่าง ๆ และจากองค์กรภายนอกอื่น ๆ เฉลี่ยหัวละ 38,964 ดอลลาร์ [ 295 ] นักศึกษาได้รับรางวัลทุนการศึกษารวมกัน 102 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมากมาจากผู้สนับสนุนสถาบัน ( 84 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ) ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นทุกปีมีผลให้เกิดประเพณีนักศึกษา ที่จะทำ “ จราจลค่าเล่าเรียน ” ( แบบซ่อนยิ้ม ) เริ่มตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1960 [ 296 ] MIT เป็นสถาบันสหศึกษา ( รับทั้งผู้หญิงผู้ชาย ) อย่างน้อยในนาม ตั้งแต่รับนักศึกษาหญิงเอ็ลเล็น ริชาร์ดส ในปี ค.ศ. 1870 หลังจากนั้น ริชาร์ดสยังได้กลายเป็นอาจารย์หญิงคนแรกของสถาบันในสาขาเคมีอนามัย ( sanitary chemistry ) อีกด้วย [ 297 ] แต่นักศึกษาหญิงก็ยังเป็นชนส่วนน้อย ( น้อยกว่า 3 % ) จนกระทั่งหอพักนักศึกษาหญิงแห่งแรกคือ McCormick Hall ได้สร้างเสร็จลงปีกหนึ่งในปี ค.ศ. 1963 [ 298 ] [ 299 ] [ 300 ] ในระหว่างปี ค.ศ. 1993-2009 อัตราของนักศึกษาหญิงเพิ่มจาก 34 % เป็น 45 % ในระดับปริญญาตรี และจาก 20 % เป็น 31 % ในระดับบัณฑิตศึกษา [ 152 ] [ 301 ] ในปัจจุบัน มีผู้หญิงมากกว่าผู้ชายในสาขา ชีววิทยา วิทยาศาสตร์ สมอง และ ประชาน สถาปัตยกรรม การวางแผนเมือง และวิศวกรรมชีวภาพ [ 152 ] [ 292 ] การเสียชีวิตของนักศึกษาจำนวนหนึ่งในปลายคริสต์ทศวรรษ 1990 และต้นทศวรรษ 2000 มีผลให้สื่อมวลชนเกิดความสนใจในประเพณีและวิถีชีวิตของนักศึกษา [ 302 ] [ 303 ] หลังจากการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการดื่มสุราของนักศึกษาสก็อตต์ ครูเกอร์ ในปี ค.ศ. 1997 เมื่อเป็นสมาชิกใหม่ของ Phi Gamma Delta fraternity [ 304 ] สถาบันก็เริ่มนโยบายบังคับให้นักศึกษาปี 1 อาศัยอยู่ในระบบหอพักของสถาบัน [ 304 ] [ 305 ] อัตวินิบาตกรรม ในปี ค.ศ. 2000 ของนักศึกษาปริญญาตรี ( หญิง ) อะลิซาเบ็ธ ชิน ทำให้สื่อเริ่มสนใจเรื่องการฆ่าตัวตายของนักศึกษาที่สถาบัน และสร้างข้อวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นว่า สถาบันมีอัตราการฆ่าตัวตายที่สูงผิดปกติหรือไม่ [ 306 ] [ 307 ] ในปลายปี ค.ศ. 2001 ได้มีการดำเนินการตามคำแนะนำของคณะกรรมการเฉพาะกิจที่ตั้งขึ้น ที่แนะนำให้ปรับปรุงบริการด้านสุขภาพจิตให้นักศึกษา [ 308 ] [ 309 ] มีการเพิ่มทั้งจำนวนบุคคลากร ทั้งเวลาทำงานที่ศูนย์สุขภาพจิต [ 310 ] กรณีนักศึกษาฆ่าตัวตายเหล่านี้ และกรณีอื่น ๆ ที่ตามมาในภายหลังมีความสำคัญ เพราะบิดามารดาของนักศึกษายกสถาบันขึ้นฟ้องศาลตั้งใจจะแสดงความละเลยหน้าที่รับผิดชอบของผู้บริหารสถาบันโดยหลัก in loco parentis ( ความรับผิดชอบของสถาบันแทนที่ผู้ปกครอง ) [ 306 ]
ในปี ค.ศ. 2015 MIT มีคณะอาจารย์ 1,021 คน 224 คนเป็นอาจารย์หญิง [ 3 ] อาจารย์มีหน้าที่ให้เล็กเช่อร์ ให้คำปรึกษากับนักศึกษาทั้งระดับปริญญาตรีและทั้งระดับบัณฑิตศึกษา ทำหน้าที่เป็นกรรมการทางการศึกษา และทำงานวิจัย ในระหว่างปี ค.ศ. 1964-2009 อาจารย์และบุคคลากรอื่นที่เกี่ยวข้องกับสถาบันรวมทั้งหมด 18 คน ได้รับ รางวัลโนเบล ( หรือ 14 คนใน 25 ปีที่ผ่านมา ) [ 311 ] คณะอาจารย์ทั้งอดีตทั้งในปัจจุบันรวม ๆ กันได้รับรางวัลโนเบล 27 รางวัล โดยมากในสาขา เศรษฐศาสตร์ และ ฟิสิกส์ [ 312 ] ในปี ค.ศ. 2015 คณะอาจารย์และบุคคลากรผู้ยังสอนอยู่ในปัจจุบัน ได้รับรางวัลเป็น Guggenheim Fellow [ o ] 65 คน, เป็นนักศึกษา Fulbright Scholar [ p ] 5 คน และเป็น MacArthur Fellow 23 คน [ 3 ] อาจารย์ที่มีผลงานวิจัยที่ยอดเยี่ยมในสาขาของตน และได้ทำงานอุทิศให้แก่ชุมชนของ MIT จะได้รับตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์สถาบัน ( Institute Professor อาจเหมือนกับ ศาสตราจารย์พิศิษฐ์ ) ในวาระดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ที่เหลือ ในปี ค.ศ. 1998 มีการศึกษาที่สรุปว่า มีอคติอย่างเป็นระบบ กีดกันอาจารย์เพศหญิงในโรงเรียนวิทยาศาสตร์ [ 313 ] แม้ว่าวิธีการศึกษาจะไม่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย [ 314 ] [ 315 ] แต่ว่า หลังจากนั้น ผู้หญิงก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น คณบดี ภายในโรงเรียนวิทยาศาสตร์และโรงเรียนวิศวกรรมศาสตร์ และสถาบันก็ได้แต่งตั้งรองอธิการบดีหญิงหลายท่าน แม้ว่า การกล่าวหาว่า มีการกีดกันโดยเพศ ก็ยังไม่หมดสิ้นไป [ 316 ] ศ.ซูซาน ฮ็อกฟิลด์ ผู้เป็นนักประสาทชีววิทยาระดับโมเลกุล ได้รับแต่งตั้งให้เป็น อธิการบดี หญิงคนแรกในระหว่างปี ค.ศ. 2004-2012 การตัดสินใจให้ ( หรือไม่ให้ ) สิทธิในการดำรงตำแหน่ง ( tenure ) ของสถาบัน บางครั้งทำให้สื่อระดับชาติเกิดความสนใจ ในปี ค.ศ. 1984 การไล่ออก ศาสตราจารย์ผู้ช่วย เดวิด โนเบิล ผู้เป็นนัก ประวัติศาสตร์ ทาง เทคโนโลยี กลายเป็นเรื่องดังในเรื่อง เสรีภาพในการพูด ที่ให้แก่อาจารย์ในมหาวิทยาลัย คือ การไล่ออกเกิดขึ้นหลังจากที่ ศ.โนเบิลพิมพ์หนังสือและเอกสารหลายฉบับที่วิพากษ์วิจารณ์ความที่ทั้ง MIT และมหาวิทยาลัยวิจัยอื่น ๆ ต้องอาศัยเงินสนับสนุนจากบริษัทธุรกิจและจากการทหาร [ 317 ] ในปี ค.ศ. 1994 ศ.ญ. เกร็ตเช็น คาลอนจี ผู้เป็นอดีตศาสตราจารย์ วัสดุศาสตร์ ฟ้องสถาบันในศาลกล่าวหาว่า เธอถูกปฏิเสธ สิทธิในการดำรงตำแหน่ง เพราะมีการกีดกันทางเพศ และหลายปีต่อมา ก็มีการยินยอมกันนอกศาลโดยมีการจ่ายค่าเสียหายที่ไม่เปิดเผยจำนวน และโดยตั้งโครงการเพื่อช่วยสนับสนุนให้ผู้หญิงและชนกลุ่มน้อย พยายามเสาะหาตำแหน่งอาจารย์ [ 316 ] [ 318 ] [ 319 ] ในปี ค.ศ. 1997 คณะกรรมการต่อต้านการเลือกปฏิบัติของรัฐแมสซาชูเซตส์ ( Massachusetts Commission Against Discrimination ) ตีพิมพ์ผลค้นหาข้อเท็จจริงที่แสดงความอาจเป็นได้ว่า การกล่าวหาของศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตส์-บอสตัน เจมส์ เจ็นนิ่งส์ ( ผู้มีเชื้อสายเป็นคน แอฟริกันอเมริกัน ) ว่า มีการกีดกันโดยผิวพรรณ มีมูล หลังจากที่คณะกรรมการเสาะหาอาจารย์ชั้นอาวุโสในคณะศึกษาและวางแผนเมือง ( Department of Urban Studies and Planning ) ไม่ได้ให้สิทธิการดำรงตำแหน่งแบบข้ามสถาบัน ( multiplicative inverse tenure ) แก่เขา [ 320 ] ในระหว่างปี ค.ศ. 2006-2007 สถาบันปฏิเสธไม่ให้ สิทธิการดำรงตำแหน่ง แก่ ศ.เจมส์ เชอร์ลีย์ ( ผู้มีเชื้อสายเป็นคน แอฟริกันอเมริกัน ) เป็นการจุดไฟให้ใหม่กับข้อกล่าวหาว่ามี คตินิยมเชื้อชาติ ในกระบวนการมอบสิทธิ ซึ่งในที่สุดก็นำไปสู่การโต้เถียงกับคณะผู้บริหารสถาบันผ่านสื่อที่เป็นสาธารณะ การประท้วงด้วยการอดข้าวของ ศ.เชอร์ลีย์ และการลาออกประท้วงของ ศ.แฟรงก์ ดักลาส ( ผู้เป็น ศ. แอฟริกันอเมริกัน อีกคนหนึ่ง ) [ 321 ] [ 322 ] หนังสือพิมพ์ เสรีนิยม The Boston Globe รายงานในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2007 ว่า
คณะอาจารย์ในโรงเรียนมักจะได้รับเชิญให้ไปเป็นผู้นำที่มหาวิทยาลัยอื่น ๆ ในปี ค.ศ. 1869 อาจารย์รุ่นก่อตั้งโรงเรียนคือ ศ.ชาลส์ อีเลียต รับตำแหน่งอธิการบดีของ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เป็นตำแหน่งที่เขาดำรงอยู่เป็นเวลานานถึง 40 ปี ซึ่งเขาได้มีอิทธิพลอย่างสูงต่อการศึกษาในระดับ อุดมศึกษา และ มัธยมศึกษา ของสหรัฐอเมริกา ส่วนศิษยเก่าและอาจารย์คือ ศ.จอร์จ เฮล ได้ช่วยสร้าง สถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย ให้เป็นสถาบันวิจัยระดับแนวหน้า และอาจารย์อื่น ๆ ได้เป็นอาจารย์รุ่นจัดตั้งคนสำคัญของวิทยาลัย วิศวกรรมศาสตร์ Franklin W. Olin College of Engineering ในเมืองนีดแฮม รัฐแมสซาชูเซตส์ ที่อยู่ใกล้ ๆ ในปี ค.ศ. 2013 อดีตรองอธิการบดีโรเบิร์ต บราวน์ ดำรงตำแหน่งเป็นอธิการบดีของมหาวิทยาลัยบอสตัน อดีตรองอธิการบดีมาร์ก ไรต์ตัน ดำรงตำแหน่งเป็นอธิการบดีของ มหาวิทยาลัยวอชิงตัน เซนต์หลุยส์ อดีตผู้ช่วยรองอธิการบดี ( associate provost ) อัลลิซ แกสต์ ดำรงตำแหน่งเป็นอธิการบดีของ มหาวิทยาลัยลีไฮ อดีตศาสตราจารย์ Suh Nam-pyo ดำรงตำแหน่งเป็นอธิการบดีของ สถาบันชั้นสูงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกาหลี อดีตคณบดีของโรงเรียนวิทยาศาสตร์โรเบิร์ต เบอร์เกนอ เคยดำรงตำแหน่งเป็นอธิการบดีของ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ( 2004-2013 ) อดีตศาสตราจารย์จอห์น เมดา เคยดำรงตำแหน่งเป็นอธิการบดีของ โรงเรียนดีไซน์โรดไอแลนด์ ( 2008-2013 ) อดีตศาสตราจารย์เดวิด บัลติมอร์ เคยดำรงตำแหน่งเป็นอธิการบดีของ สถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย ( 1997-2006 ปัจจุบันเป็นศาสตราจารย์สาขาชีววิทยา ) และศิษย์เก่าและอดีตศาสตราจารย์ผู้ช่วยแฮนส์ มารค์ เคยดำรงตำแหน่งเป็นอธิการบดีของกลุ่ม มหาวิทยาลัยเท็กซัส ( 1984-1992 ) นอกจากนั้นแล้วคณะอาจารย์ในโรงเรียนก็มักจะได้รับเชิญให้ไปเป็นผู้นำในองค์กรของรัฐด้วย ยกตัวอย่างเช่นอดีต ศ.ญ.มาเซีย แม็คนัตต์ ได้เป็นผู้อำนวยการขององค์กรสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ [ 324 ] ศาสตราจารย์ การวางแผนเมือง ซาเวียร์ เดอ ซูซา บริก์ส ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานการบริหารและการออกงบประมาณของ ทำเนียบขาว [ 325 ] และศาสตราจารย์สาขาชีววิทยาอีริก แลนด์เดอร์ เป็นประธานร่วมของคณะผู้ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของ ประธานาธิบดี ( สหรัฐ ) [ 326 ] ในปี ค.ศ. 2013 ศ.เออร์เนสต์ โมนี ได้รับแต่งตั้งโดยประธานาธิบดี บารัค โอบามา ให้เป็นเลขาธิการกระทรวงพลังงานประเทศสหรัฐอเมริกา [ 327 ] [ 328 ] อดีตศาสตราจารย์แฮนส์ มารค์ ได้เป็นเลขาธิการของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริการะหว่างปี ค.ศ. 1979-1981 ศิษย์เก่าและศาสตราจารย์สถาบันหญิง ชีลลา วิดนอล์ ได้เป็นเลขาธิการของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริการะหว่างปี 1993-1997 เป็นเลขาธิการหญิงคนแรกของกองทัพอากาศ และเป็นหญิงคนแรกที่เป็นผู้นำของทั้งกองทัพ MIT ติดอันดับ 7 ในรายการมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยสหรัฐที่น่าทำงานที่สุดในปี ค.ศ. 2013 สำรวจโดยการให้คะแนนของผู้ที่ทำงานในสถาบัน [ 329 ] ผลการสำรวจแสดงว่า MIT มีสิ่งแวดล้อมที่เด่นในด้านความ “ ฉลาด ” “ มีความคิดสร้างสรรค์ ” “ เป็นกันเอง ” โดยมีความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานหนักไปทางด้าน “ จริยธรรมในการทำงานที่เข้มแข็ง ” แต่บ่นว่า “ ให้เงินตอบแทนน้อย ” [ 330 ]
ในบรรดาศิษย์เก่าที่มีถึง 120,000 คน มีบุคคลเป็นจำนวนมากประสบความสำเร็จที่เห็นได้ในงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ในการทำสาธารณประโยชน์ ในการศึกษา และในด้านธุรกิจ โดยปี ค.ศ. 2014 ศิษย์เก่า 27 คนได้รับ รางวัลโนเบล 47 คนได้รับเลือกเป็นผู้รับทุนการศึกษา โรดส์ สคูลาร์ส และ 61 คนได้รับเลือกเป็นผู้รับทุนการศึกษา Marshall Scholar [ 331 ] ศิษย์เก่าที่เป็นนักการเมืองหรือทำบริการสาธารณประโยชน์รวมทั้งอดีตประธานธนาคารเงินทุนสำรองรัฐบาลกลาง ( ซึ่งเป็นธนาคารกลางของสหรัฐ ) เบ็น เบอร์แนงกี, อดีตสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา จาก รัฐแมสซาชูเซตส์ เขตที่ 1 จอห์น โอลเวอร์, อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจาก รัฐแคลิฟอร์เนีย เขตที่ 13 พีท สตาร์ก, อดีตประธานคณะกรรมการเศรษฐกิจแห่งชาติสหรัฐอเมริกา ( United States National Economic Council ) ลอเร็นซ์ ซัมเมอร์ส, และอดีตประธานหญิงของคณะกรรมการผู้ปรึกษาทางเศรษฐกิจ ( Council of Economic Advisors ) คริสตินา โรเมอร์ ศิษย์เก่าที่เป็นนักการเมืองในประเทศต่าง ๆ รวมทั้งรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของ อิหร่าน Ali Akbar Salehi, นายกรัฐมนตรี ประเทศอิสราเอล Benjamin Netanyahu, ประธานธนาคารกลาง สหภาพยุโรป มาริโอ ดรากี, ผู้ว่าการธนาคารกองทุนสำรอง อินเดีย ( ธนาคารกลางอินเดีย ) Raghuram Rajan, อดีตเลขาธิการกระทรวงการต่างประเทศ ประเทศอังกฤษ เดวิด มิลิแบนด์, อดีตนายกรัฐมนตรี ประเทศกรีซ ลูกัส ปาปาดีโมส, อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ โคฟี แอนนัน, อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประเทศอิรัก Ahmed Chalabi, และ ประธานาธิบดีสิงคโปร์ ดร. โทนี ตัน เค็ง ยัม ศิษย์เก่าได้ตั้งหรือช่วยตั้งบริษัทที่น่าสนใจหลายบริษัทรวมทั้งบริษัท อินเทล ( โดย โรเบิร์ต นอยซ์ ), บริษัทแมคดอนเนลล์ดักลาส ( โดยเจมส์ แม็คดอนเนลล์ และโดนัลด์ ดักลาส ), บริษัท Texas Instruments ( โดยซีซิล กรีน ), บริษัท 3Com ( โดยโรเบิร์ต เม็ตคาล์ฟ ), บริษัท ควอลคอมม์ ( โดย Andrew Viterbi ), บริษัท Bose ( โดย ศ.Amar Bose ), บริษัท เรย์เธียน โดยรองอธิการบดีแวเนวาร์ บุช, บริษัท Koch Industries ( โดยเฟร็ด คอช ), บริษัท Rockwell International ( โดยวิลลาด ร็อกเว็ลล์ ), บริษัท Genentech ( โดยโรเบิร์ต สวอนสัน ), บริษัท Dropbox ( โดยดรู ฮูสตัน ), และ บริษัท Campbell Soup ( โดยจอห์น ดอร์เแรนซ์ ) หนังสือพิมพ์ ประเทศอังกฤษ The Guardian ได้พิมพ์ข้อความไว้ว่า
ศิษยเก่าของที่เป็นผู้นำสถาบันการศึกษาระดับ อุดมศึกษา รวมทั้ง อธิการบดีซูบรา ซูเรชของ มหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน, อธิการบดีจอห์น เมดาของ โรงเรียนดีไซน์โรดไอแลนด์, อธิการบดี Joseph Aoun ของมหาวิทยาลัยนอร์ทอีสเทอร์น, รองอธิการบดีอะดิล นาจัมของมหาวิทยาลัยวิทยาการจัดการแห่ง ลาฮอร์ ( Lahore University of Management Sciences ) ประเทศปากีสถาน, อธิการบดีหญิงเชอร์ลีย์ แจ็คสันของ สถาบันโพลิเทคนิคเรนส์ซเลียร์, อธิการบดี Suh Nam-pyo ของ สถาบันชั้นสูงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกาหลี, คณบดีเพอร์เวซ ฮูดพอยของคณะฟิสิกส์ที่ Quaid-e-Azam University แห่ง ประเทศปากีสถาน, อดีตอธิการบดีเดวิด แซกซอนของ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเบิร์กลีย์, อดีตอธิการบดีลอเร็นซ์ ซัมเมอร์สของ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด, Provost ราแม็ต ชูเรชีของสถาบันเทคโนโลยีนิวยอร์ก, อดีตอธิการบดีวิลเลียม โบรดีของ มหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์, อดีตอธิการบดีลาร์รี บาคาวของ มหาวิทยาลัยทัฟส์, อดีตอธิการบดีอัลเบิร์ต ซีโมนของสถาบันเทคโนโลยีโรเชสเตอร์, อดีตอธิการบดี ( และผู้ก่อตั้งสถาบัน ) ยูเฮนิโอ ซาดาของสถาบันเทคโนโลยีและการศึกษาระดับสูง มอนเตร์เรย์, อดีตอธิการบดีมาร์ติน จิชของ มหาวิทยาลัยเพอร์ดู, และอดีตอธิการบดีมาร์แชล ฮานของ เวอร์จิเนียเทค ในบรรดา นักบินอวกาศ สหรัฐที่ได้ขึ้นสู่อวกาศ เกินกว่า 1/3 ของเป็นศิษย์เก่าของสถาบัน ( รวมทั้งนักบินอวกาศเอ็ดวิน “ บัซ ” อัลดริน ในภารกิจ อะพอลโล 11 ที่ส่งคนไปดวงจันทร์ยานแรก ) เป็นจำนวนคนมากกว่ามหาวิทยาลัยอื่น ๆ ทั้งหมด ยกเว้นโรงเรียนทหารของรัฐบาลกลางของสหรัฐ [ 335 ] ศิษย์เก่าและอดีตศาสตราจารย์ Qian Xuesen มีส่วนช่วยในโครงการจรวดของ สาธารณรัฐประชาชนจีน [ 336 ] [ 337 ]

ศิษยเก่าที่มีชื่อเสียงในด้านอื่น ๆ รวมทั้งสถาปนิก ไอ. เอ็ม. เพ ผู้ได้รับ รางวัลพริตซ์เกอร์ ( ซึ่งเรียกว่า เป็นรางวัลโนเบลของสถาปัตยกรรม ) ศิษยเก่าชาว ไทย ที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี, คุณพลอยไพลิน เจนเซน, ดร.โอฬาร ไชยประวัติ, รองศาสตราจารย์ ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์, ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล, ศาสตราจารย์ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์, ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์, ท่านผู้หญิง นิรมล สุริยสัตย์ และ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ร้อยเอก กฤษฎา อรุณวงษ์ ณ อยุธยา เป็นตัน
พิกัดภูมิศาสตร์ :