ปัจจุบันเว็บไซต์ Youtube ( ยูทูป ) นั้นเปรียบเสมือนสื่อกลางที่เชื่อมคนทั้งโลกเข้าไว้ด้วยกันผ่านวิดีโอ โดยในแต่ละวันวิดีโอนับแสนๆล้านๆชิ้นถูกอัพโหลดขึ้นในเว็บไซต์นี้อยู่ตลอดเวลา และศิลปินเบอร์ต่างๆก็นิยมปล่อยมิวสิควิดีโอลงในยูทูปเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เพลงของตัวเองให้ผู้คนที่อยู่อีกมุมโลกได้เสพผลงาน เพลงไหนฮิต เพลงไหนโดน จำนวนยอดวิวและยอดไลค์ในยูทูปล้วนเป็นตัวชี้วัดความนิยมในตัวเพลงและศิลปินคนๆนั้นได้เป็นอย่างดี วันนี้เรามี 25 เพลงฮิตระดับโลกที่มียอดวิวเกิน 1 พันล้านวิวขึ้นไปมาฝากกัน บางเพลงคงอาจจะเคยได้ยินกันผ่านหูแต่ไม่รู้ว่าชื่ออะไร วันนี้เรามีคำตอบมาให้แล้วครับ

PSY – Gangnam Style (2012)

ยอดวิว 2,614 ล้านวิว

เรียกได้ว่าโด่งดังเพียงชั่วข้ามคืนสำหรับศิลปินชาวเกาหลีใต้จากค่าย YG Entertainment นามว่า PSY ที่ได้ส่งเพลงฮิตระดับโลกอย่าง Gangnam Style ออกมาจนเป็นไวรัลและเกิดกระแสฟีเวอร์ไปทั่วทั้งโลกในปี 2012 ด้วยความที่เป็นเพลงสนุกๆมีท่าเต้นที่เต้นตามได้ง่าย บวกกับเนื้อหาในเอ็มวีที่ตลกขบขัน ส่งผลให้ Gangnam Style เป็นเพลงที่มีจำนวนผู้เข้าชมมากที่สุดในโลกขณะนี้คือกว่า 2.6 พันล้านวิว และยังมีจำนวนไลค์มากที่สุดถึง 7 ล้าน ไลค์อีกด้วย
นอกจากนั้นแล้ว Gangnam Style ยังเคยพุ่งทะยานสูงสุดถึง อันดับ 2 บนชาร์ตเพลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกอย่าง Billboard Hot 100 โดยเป็นรองแค่เพลง One More Night จาก Maroon 5 เพียงเท่านั้น

Wiz Khalifa  – See You Again ft. Charlie Puth (Furious 7 Soundtrack) (2015)

ยอดวิว 1,901 ล้านวิว
โด่งดังทั้งกระแสของหนังและตัวเพลงสำหรับ See You Again เพลงประกอบหนังแข่งรถสุดมันส์เรื่อง Furious 7 ซึ่งเป็นข่าวดีในความโชคร้ายที่นักแสดงนำของเรื่องอย่างหนุ่ม Paul Walker ได้เสียชีวิตขณะถ่ายทำ ส่งผลให้การถ่ายทำและโปรแกรมฉายต้องเลื่อนออกไปจากที่วางไว้ แต่เมื่อเข้าฉายตัวหนังก็สามารถได้รับทั้งคำวิจารณ์และรายได้อย่างถล่มทลาย ยิ่งบวกกับเนื้อหาของเพลงประกอบอย่าง See You Again ที่เข้ากับตัวหนังและเหมือนเป็นการอาลัยถึง Paul Walker ด้วยแล้วล่ะก็ ยิ่งทำให้เพลงนี้ดังทนดังนาน ชนิดที่ว่าเดินไปที่ไหนก็ได้ยินแต่เพลงนี้เลยทีเดียว

Mark Ronson – Uptown Funk ft. Bruno Mars (2014)

ยอดวิว 1,746 ล้านวิว
นับเป็นการปลุกกระแสเพลงฟังก์ให้กลับมาครึกครื้นในชาร์ต Billboard Hot 100 อีกครั้ง นับตั้งแต่ที่กระแสเพลงฮิปฮอปและ EDM ครองเมือง Uptown Funk จึงเปรียบเสมือนเพลงจังหวะสนุกๆที่สามารถฟังแล้วโยกตามได้ในทันที ฮิตชนิดที่ว่าขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ต Billboard Hot 100 นานถึง 14 สัปดาห์ เทียบเท่ากับเพลงดังๆอย่าง We Belong Together ของ Mariah Carey ก่อนที่จะโดน See You Again ของ Wiz Khalifa เบียดขึ้นที่ 1 ในสัปดาห์ต่อมา

Taylor Swift – Blank Space (2014)

ยอดวิว 1,679 ล้านวิว
หากจะบอกว่า Taylor Swift คือนักร้องหญิงที่โด่งดังที่สุดในยุคนี้ก็คงจะไม่แปลก เพราะดูจากสถิติที่เธอทำไว้ต่างๆล้วนอยู่ในระดับ TOP แทบทั้งสิ้น อาทิ เป็นศิลปินหญิงคนแรกที่มียอดขายในสัปดาห์แรกเกิน 1 ล้านชุดติดต่อกันถึง 3 อัลบั้ม, เป็นศิลปินที่รวยที่สุดในโลกประจำปี 2015 โดยทำรายได้เฉลี่ยวันละ 1 ล้านเหรียญ ! ! เป็นต้น
โดย Blank Space นั้นเป็นเพลงโปรโมทลำดับที่ 2 จากอัลบั้มชุดที่ 5 ที่เธอได้เปลี่ยนแนวจากสาวคันทรี่มาสู่ความเป็นป็อปแบบเต็มรูปแบบครั้งแรก ด้วยความที่เป็นเพลงจังหวะสบายๆ ฟังง่าย ร้องตามได้ไม่ยาก และเนื้อหาในเอ็มวีที่สวยงาม ส่งผลให้ Blank Space มาแรงแบบฉุดไม่อยู่จริงๆ

Justin Bieber – Sorry (2015)

ยอดวิว 1,649 ล้านวิว
ถ้านักร้องดังที่สุดในโลกฝ่ายหญิงเป็น Taylor Swift แล้วล่ะก็ ฝ่ายชายในนาทีนี้ต้องยกให้กับหนุ่ม Justin Bieber อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะการกลับมาในลุคที่โตขึ้นบวกกับแนวเพลงที่เข้าถึงได้ง่ายทุกเพศทุกวัย ทำให้อัลบั้มชุดที่ 4 อย่าง Purpose มีเพลงเข้าสู่ Billboard Hot 100 ถึง 17 เพลงรวด ทำลายสถิติของวง The Beatle ที่ได้ทำเอาไว้เมื่อปี 1964 ลงอย่างสิ้นเชิง อีกทั้ง Sorry ยังสามารถขึ้นสู่อันดับ 1 หลังจากที่โดน Hello ของ Adele บดบังรัศมีอยู่ถึง 10 สัปดาห์ นับเป็นเพลงที่เรียกได้ว่าดังจากตัวเพลงอย่างแท้จริง เพราะในเอ็มวีถึงแม้จะไม่มีใบหน้าของ Justin แม้แต่นิดเดียว แต่ก็ทำยอดทะลุ 1.6 พันล้านวิวและมีทีท่าว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย

Adele – Hello (2015)

ยอดวิว 1,648 ล้านวิว
กลับมาแต่ละครั้งไม่เคยทำให้แฟนๆผิดหวังเลยซักนิดสำหรับ Diva สาวระดับโลกอย่าง Adele ซึ่งในครั้งนี้ถึงแม้จะห่างหายไปนานแต่เมื่อปล่อยแค่อินโทรและคำว่า Hello…It’s me ออกมา ก็เป็นกระแสไปทั่วโลกแล้ว รวมไปถึงการล้มสถิติของ NSYNC ที่ครองสถิติเปิดตัวยอดขายสัปดาห์แรกสูงสุดตลอดกาลมาถึง 15 ปี ด้วยจำนวน 3.38 ล้านชุด และ Hello ยังเป็นเอ็มวีที่มียอดผู้เข้าชมภายใน 24 ชั่วโมงสูงสุดที่สุดในโลกด้วยจำนวน 23 ล้านวิวอีกด้วย
ถึงแม้จะเปิดตัวมาพร้อมกับเพลงกระแสแรงอย่าง Sorry ของหนุ่ม Justin Bieber แต่ Hello ก็สามารถครองแชมป์อันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Hot 100 ได้ยาวนานถึง 10 สัปดาห์เลยทีเดียว

Taylor Swift – Shake It Off (2014)

ยอดวิว 1,559 ล้านวิว
Shake It Off เป็นผลงานจากอัลบั้มเต็มชุดที่ 5 ของสาว Taylor Swift ซึ่งนอกจากการเปลี่ยนแนวเพลงมาเป็นป็อปแล้วนั้น เธอยังได้เลือกเพลงจังหวะสนุกๆที่มีเนื้อหาจิกกัดพวก Hater ที่ไม่ชอบเธออย่าง Shake It Off เป็นเพลงเปิดตัวอัลบั้มนี้อีกด้วย โดยเนื้อหาภายในเอ็มวีนั้นยังแฝงความตลกขบขันและน่ารักของเธอในอิริยาบถต่างๆเอาไว้ จึงไม่แปลกที่จะทำให้ยอดวิวเพลงนี้พุ่งทะยานแบบฉุดไม่อยู่

Major Lazer & DJ Snake – Lean On (feat. MØ) (2015)

ยอดวิว 1,520 ล้านวิว
นับว่าเป็นเพลงแดนซ์แนว EDM ที่กำลังมาแรงสุดๆสำหรับ Lean On ของ 3 หนุ่มวง Major Lazer ที่ได้ร่วมงานกับดีเจชื่อดังอย่าง DJ Snake ด้วยจังหวะเท่ๆของเครื่องเป่าและน้ำเสียงของสาว นั้น ทำให้ Lean On เป็นเพลงฮิตตามเทศกาลที่ทุกที่ต้องเปิดกัน รวมไปถึงยังเป็นเพลงที่ถูกสตรีมมิ่งบน Spotify ( ผู้ให้บริการด้านสตรีมมิ่ง ) มากที่สุดในโลกอีกด้วย ล่าสุดยอดวิวเพลงนี้ยังขยับขึ้นอย่างสม่ำเสมอเผลอๆอาจจะทะลุ 2 พันล้านวิวได้อย่างไม่ยากนัก

Enrique Iglesias – Bailando (Español) ft. Descemer Bueno, Gente De Zona (2014)

ยอดวิว 1,514 ล้านวิว
นับเป็นการผสมผสานความต่างของภาษาและภาคดนตรีไว้อย่างเหมาะเจาะและเข้ากันสำหรับ Bailando ผลงานของหนุ่ม Enrique Iglesias โดย Bailando เป็นภาษาสเปนมีความหมายว่า การเต้นรำ ซึ่งในเพลงนี้เองหนุ่ม Enrique ยังได้ผสมผสานระหว่างเนื้อร้องภาคภาษาอังกฤษกับภาษาสเปนเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว นอกจากนั้นในเพลงนี้ยังชวนให้นึกถึงกลิ่นอายพื้นบ้านแบบสเปน เพียงได้ฟังก็อยากที่จะขยับลุกขึ้นมาโยกย้ายตาม จึงไม่แปลกใจที่ยอดวิวเพลงนี้จะพุ่งถึง 1,500 ล้านกว่าวิว

Wheels On The Bus – Plus Lots More Nursery Rhymes (2014)

ยอดวิว 1,508 ล้านวิว
Wheels On The Bus เป็นเพลงภาษาอังกฤษสำหรับเด็กๆที่มีความยาวถึงเกือบ 1 ชั่วโมง ภายในเพลงเป็นเนื้อหาสำหรับเด็กเบื้องต้น ไม่ว่าจะเป็นคำศัพท์ การออกเสียง คติสอนใจ โดยมียอดวิวกว่า 1,500 ล้านวิวแล้วในขณะนี้

Katy Perry – Dark Horse (Official) ft. Juicy J (2014)

ยอดวิว 1,474 ล้านวิว
ถึงแม้จะมีข้อพิพาทเรื่องการใช้สัญลักษณ์ของพระอัลเลาะห์ภายในเอ็มวีจนทำให้ชาวมุสลิมทั่วโลกไม่พอใจ แต่ยอดวิวเพลง Dark Horse ก็ยิ่งจะพุ่งสูงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะด้วยเนื้อหาเพลง เสียงร้อง บวกกับทำนองที่โดนใจ ยิ่งได้แร็ปเท่ๆจาก Juicy J มาเสริมในเพลง ยิ่งทำให้เพลงนี้ลูกเล่นที่น่าฟังเพิ่มมากขึ้น
ซึ่งเหตุการณ์พิพาทครั้งนี้ไม่ใช่เหตุการณ์แรกที่เคยเกิดขึ้น เพราะก่อนหน้านี้สาว Katy Perry ก็เคยสวมชุดเกอิชาออกไปร่ายรำในงาน American Music Awards 2013 จนชาวญี่ปุ่นรู้สึกไม่พอใจมาครั้งนึงแล้ว

Katy Perry – Roar (2013)

ยอดวิว 1,470 ล้านวิว
Roar เป็นเพลงเปิดตัวจากอัลบั้มเต็มชุดที่ 4 อย่าง Prism โดยเนื้อหาเอ็มวีเป็นภาพของสาว Katy Perry ได้หลงเข้าไปในป่าที่มีสิงสาราสัตว์มากมาย ด้วยเนื้อหาบวกกับดีไซน์การร้องให้เป็นเสียงคำรามของสัตว์ ส่งผลให้ Roar สามารถขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Hot 100 และชาร์ตต่างๆทั่วโลกได้ในทันที รวมไปถึงยอดเข้าชมเอ็มวีที่ยังสูงขึ้นเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน

Meghan Trainor – All About That Bass (2014)

ยอดวิว 1,455 ล้านวิว
Because you know I’m all about that bass ‘Bout that bass, no treble. รับรองว่าทุกคนคงเคยได้ยินท่อนนี้ผ่านหูกันอย่างแน่นอน แต่ใครจะเชื่อว่า All About That Bass จากนักร้องสาวอวบ Meghan Trainor จะกลายเป็นเพลงฮิตไปทั่วโลกเพียงชั่วข้ามคืน
ด้วยเนื้อหาที่ส่งเสริมความมั่นใจในรูปร่างให้กับบรรดาสาวไซส์ใหญ่ บวกกับเอ็มวีที่มีกิมมิคน่ารักสีสันฉูดฉาดแบบย้อนยุค ส่งผลให้ยอดวิวของ All About That Bass ทะลุพันล้านวิวได้อย่างไม่อยากเย็น ยิ่งไปกว่านั้น All About That Bass ยังสามารถครองที่ 1 บนชาร์ต Billboard Hot 100 ได้นานถึง 8 สัปดาห์ รวมไปถึง Meghan Trainor ยังได้รับรางวัล Grammy สาขาศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมอีกด้วย

Justin Bieber – Baby ft. Ludacris (2010 )

ยอดวิว 1,417 ล้านวิว
ก่อนที่ Gangnam Style จะฮิตชั่วข้ามคืนจนกลายเป็นเพลงที่มียอดวิวสูงที่สุดในโลกไปนั้น Baby จาก Justin Bieber เคยครองตำแหน่งเพลงที่มียอดวิวสูงที่สุดในโลกมาก่อน ด้วยภาพลักษณ์ของ Justin ในช่วงนั้นที่เป็นเด็กหนุ่มวัยใส มาพร้อมกับทรงผมที่เป็นเอกลักษณ์บวกท่าเต้นแสนซน ทำให้เพลง Baby กลายเป็นเพลงฮิตครองใจมหาชนได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
โดยในปัจจุบัน Justin Bieber เป็นนักร้องชายคนแรกที่มียอดวิวเอ็มวีเพลงเกิน 1 พันล้านวิวขึ้นไปถึง 3 เพลงด้วยกันได้แก่ Baby, What Do You Mean? และ Sorry โดยอีกเพลงของ Justin ที่มีแววจะทะลุ 1 พันล้านวิวในเร็วๆนี้อย่างแน่นอนก็คือเพลง Love Yourself นั่นเอง

Maroon 5 – Sugar (2015)

ยอดวิว 1,361 ล้านวิว
เป็นวง POP ROCK ที่มีอายุวงมาอย่างยาวนานและยังประสบความสำเร็จตราบจนทุกวันนี้กับวง Maroon 5 เจ้าของเพลงฮิตอย่าง This Love , Moves Like Jagger, One More Night, Maps, Makes Me Wonder และอื่นๆอีกมากมาย โดย Sugar เพลงจากอัลบั้มล่าสุดชุดที่ 5 ก็ได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้น แถมยังขึ้นไปพีคสุดที่อันดับ 2 บน Billboard Hot 100 ( เป็นรองแค่ Uptown Funk ) ที่สำคัญเอ็มวีเพลง Sugar ยังเป็นเพลงแรกของวงนี้ที่มียอดวิวเกิน 1 พันล้านวิวอีกด้วย

OneRepublic – Counting Stars (2013)

ยอดวิว 1,356 ล้านวิว
เป็นอีกหนึ่งวง POP ROCK ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีสำหรับ 5 หนุ่ม OneRepublic ที่ได้ส่ง Counting Stars เพลง POP ROCK จังหวะสนุกๆออกมา โดยเนื้อของเพลงเป็นการบอกคนรักให้คลายกังวล โดยหันไปนั่งนับดาวแทน ด้วยเนื้อหาและทำนองของเพลงที่โดนใจส่งผลให้ยอดวิวเพลงนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน

Sia – Chandelier (2014)

ยอดวิว 1,343 ล้านวิว
Chandelier เป็นเพลงสุดฮอตของนักร้องนักแต่งเพลงสาว Sia ด้วยเนื้อหาของเพลงที่ตรงใจบวกกับเอ็มวีที่ได้หนูน้อยมากความสามารถอย่าง Maddie Ziegler มาแสดงความสามารถ ก็ทำให้ยอดวิวเอ็มวีพุ่งกระฉูดแบบฉุดไม่อยู่ แต่ใครจะรู้ว่า Sia มีเหตุผลในการออกอัลบั้มค่อนข้างที่เหลือเชื่ออยู่ก็คือว่า การที่เธอต้องเป็นศิลปินนั้นเพราะเธอได้ติดสัญญาการออกอัลบั้มกับทางต้นสังกัดอยู่ ซึ่งเมื่อเธอหมดสัญญาลง เธอก็จะกลับไปใช้ชีวิตนักแต่งเพลงแบบปกติตามเดิม

Ellie Goulding – Love Me Like You Do (2015)

ยอดวิว 1,196 ล้านวิว
นับเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอีกเพลงหนึ่งอย่าง Love Me Like You Do ที่ได้สาวเสียงนุ่ม Ellie Goulding มาเป็นผู้ถ่ายทอด ซึ่งพอเมื่อ Fifty Shades of Grey เข้าฉาย สาวๆทั่วโลกต่างคลั่งไคล้ Mr.Grey จนฮัมเพลง Love Me Like You Do กันออกมาเป็นทิวแถว

Ed Sheeran – Thinking Out Loud (2014)

ยอดวิว 1,193 ล้านวิว
เรียกได้ว่าเป็นเพลงรักที่พีคสุดๆแบบฉุดไม่อยู่เลยทีเดียวสำหรับ Thinking Out Loud ของหนุ่ม Ed Sheeran ที่ไม่ว่าจะไปทางไหนก็มักจะได้ยินเพลงนี้เปิดคลออยู่ตลอด ฮิตขนาดที่ว่ากันว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวนิยมนำเพลง Thinking Out Loud มาใช้ในวิดีโอพรีเซนเทชั่นงานแต่งงานกันเลยทีเดียว แต่น่าเสียดายที่เพลงนี้พีคสุดในชาร์ต Billboard Hot 100 แค่อันดับ 2 เนื่องจากโดนเพลงฮิตระดับมหาชนอย่าง Uptown Funk กันซีนที่ 1 อยู่

Justin Bieber – What Do You Mean? (2015)

ยอดวิว 1,147 ล้านวิว
เป็นเพลงเปิดตัวจากอัลบั้มเต็มชุดที่ 4 Purpose อย่าง What Do You Mean? ซึ่งถือเป็นการแสดงออกถึงความเติบโตทั้งรูปลักษณ์ เสียงร้อง และแนวเพลงของ Justin Bieber ได้เป็นอย่างดี ซึ่งทำให้อัลบั้มนี้ได้รับคำวิจารณ์ในระดับที่ค่อนข้างดี รวมไปถึงเพลงต่างๆในอัลบั้มที่ติดหูจนพวกเหล่า Hater ยังฮัมเพลง What Do You Mean? และ Sorry ออกมาแบบไม่รู้ตัว

Shakira – Waka Waka (The Official 2010 FIFA World Cup™ Song) (2010)

ยอดวิว 1,143 ล้านวิว
เรียกได้ว่าเป็นเพลงประกอบการแข่งขันกีฬาที่ยอดวิวสูงเอามากๆสำหรับ Waka Waka เพลงประจำการแข่งขันฟุตบอลโลกในแอฟริกาใต้เมื่อปี 2010 (The Official 2010 FIFA World Cup™ Song) ซึ่งได้นักร้องสาวสุดเซ็กซี่ชาวโคลัมเบียอย่าง Shakira มาเป็นผู้ถ่ายทอดในเพลงนี้ ด้วยความที่เป็นเพลงเชียร์กีฬาจึงมีจังหวะที่คึกคักสนุกสนาน บวกกับท่าเต้นโยกสะโพกสุดเซ็กซี่ของสาว Shakira จึงทำให้เพลงนี้เป็นที่นิยมและยอดวิวพุ่งทะยานแบบไม่รู้ตัว

LMFAO – Party Rock Anthem ft. Lauren Bennett, GoonRock (2011)

ยอดวิว 1,133 ล้านวิว
สองหนุ่มสุดเพี้ยนจาก LMFAO ที่มักจะปล่อยเพลงจังหวะสนุกและการแต่งกายที่สร้างสีสันมาเอ็นเตอร์เทนคนดูอยู่เสมอ โดย Party Rock Anthem ก็เป็นอีกหนึ่งเพลงที่มีเนื้อหาทะเล้นบวกกับจังหวะที่สนุกสนาน ทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงที่ต้องเปิดแทบจะทุกคลับเฮาส์ รวมไปถึงยอดวิวก็ผ่านหลักพันล้านวิวได้อย่างไม่ยากเย็น

Eminem – Love The Way You Lie ft. Rihanna (2010)

ยอดวิว 1,118 ล้านวิว
ด้วยการโคจรมาเจอกันของแร็ปเปอร์หนุ่ม Eminem บวกกับเสียงร้องแหบเสน่ห์ของนักร้องสาวสุดเซ็กซี่อย่าง Rihanna ส่งผลให้ Love The Way You Lie ฮิตทั่วโลกอย่างไม่ต้องสงสัย โดยเพลงนี้สามารถครองอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Hot 100 ได้ถึง 6 สัปดาห์เลยทีเดียว และเมื่อทั้งคู่กลับมาเจอกันอีกครั้งในเพลง The Monster ก็ฮิตระเบิดอีกเช่นเคย

Passenger – Let Her Go (2012)

ยอดวิว 1,055 ล้านวิว
Let Her Go เป็นเพลงฮิตระดับโลกของหนุ่มเสียงดี Michael David Rosenberg หรือที่รู้จักกันในนาม Passenger แต่เดิมผู้คนมักคิดว่า Passenger จะต้องเป็นวงดนตรี โดยก่อนหน้านั้นหนุ่ม Michael เคยตั้งวงที่มีชื่อว่า /Passenger. โดยมีสมาชิกทั้งหมด 3 คน เป็นแนวเพลงแบบ Folk Rock และได้ปล่อยอัลบั้มแรกที่มีชื่อว่า Wicked Man’s Rest ออกมาเมื่อปี 2007 จวบจนปี 2009 สมาชิกต่างๆเริ่มแยกย้ายไปตามทางของตน เขาจึงเก็บชื่อ Passenger เอาไว้จนถึงทุกวันนี้

Avicii – Wake Me Up (2013)

ยอดวิว 1,010 ล้านวิว

ด้วยแนวเพลง EDM ที่กำลังเป็นกระแสในช่วงนั้น บวกกับฝีมือการทำเพลงที่สุดเจ๋งของ Avicii ดีเจหนุ่มชาวสวีเดน ( การันตีด้วยฝีมือที่ติด TOP 10 ดีเจที่ดีที่สุดในยุโรป ) ส่งผลให้ Wake Me Up เป็นเพลงแดนซ์แนว EDM ที่ฮิตสุดๆ ทุกคลับเฮาส์ ทุกเทศกาล ทุกที่จะต้องมีเพลงจังหวะสนุกๆเพลงนี้เปิดอยู่ในงานเสมอ
เรื่องโดย : Nomad609
ภาพประกอบ : Youtube